โคลัมโบ 10 พ.ค. – เกิดเหตุประท้วงรุนแรงทั่วศรีลังกาเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และผู้บาดเจ็บราว 180 คน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา ของศรีลังกา ประกาศลาออกเมื่อวานนี้ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยนามจากสำนักงานตำรวจของศรีลังกา เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิต 5 ราย มี ส.ส.พรรครัฐบาลรวมอยู่ด้วย 1 คน ส.ส.คนนี้เสียชีวิตหลังจากเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเมืองนิตตัมบูวา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงโคลัมโบ ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์จลาจลเผยว่า ผู้ชุมนุม สื่อมวลชน สตรี และเด็ก ถูกโจมตีในเหตุการณ์ดังกล่าว จนทำให้มีประชาชนหลายสิบรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ด้าน จูลี ชุง เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำศรีลังกา ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า สหรัฐขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลโดยสันติ และเรียกร้องให้รัฐบาลศรีลังกาเดินหน้าสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงคำสั่งจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง
ตำรวจศรีลังการะบุว่า ได้รับแจ้งเหตุก่อจลาจลของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วศรีลังกา ซึ่งมีประชากรราว 22 ล้านคน แม้ว่าตำรวจได้ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวโดยไม่มีกำหนด แต่กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนได้พยายามบุกเข้าไปในบ้านพักของนายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา ซึ่งเป็นพี่ชายของประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ของศรีลังกา และจุดไฟเผารถบรรทุกคนหนึ่งที่บริเวณหน้าทางเข้าหลัก ตำรวจจึงตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาและยิงกระสุนขึ้นฟ้าเพื่อสลายการชุมนุม ทั้งยังระบุว่า ทางการได้จัดกำลังทหารหลายร้อยนายเพื่อคุ้มกันนายกรัฐมนตรีราชปักษา และคณะทำงานที่ประกาศลาออกเมื่อวานนี้ แต่ยังคงอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย