โคลัมโบ 9 พ.ค.-ตำรวจศรีลังกา ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในวันนี้หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลกับกลุ่มประท้วงรัฐบาล จนทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน ในขณะที่ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ
ตำรวจศรีลังการายงานว่า เกิดเหตุปะทะเดือดระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมที่เห็นต่างทางการเมืองในย่านใจกลางกรุงโคลัมโบทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ของศรีลังกา ใช้ท่อนไม้และกระบองทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ไม่มีอาวุธ ซึ่งปักหลักชุมนุมตั้งค่ายอยู่ด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังกามาตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ตำรวจศรีลังกาได้ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลที่ทลายแนวกั้นของตำรวจเข้าไปทำลายค่ายของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ขณะที่นายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา ของศรีลังกา ผู้เป็นพี่ชายของประธานาธิบดีศรีลังกา ได้เรียกร้องผ่านทวิตเตอร์ขอให้ประชาชนรู้จักยับยั้งชั่งใจและไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ขณะนี้ รัฐบาลศรีลังกากำลังหาทางแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศอย่างสุดความสามารถ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลศรีลังกาได้ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ เพื่อให้ทหารมีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวประชาชน หลังจากสหภาพแรงงานศรีลังกานัดประท้วงหยุดงานเพื่อชุมนุมกดดันให้ประธานาธิบดีราชปักษาลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่ผู้นำสหภาพแรงงานระบุว่า จะเปิดเวทีชุมนุมทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเพื่อกดดันให้รัฐบาลศรีลังกายกเลิกใช้คำสั่งดังกล่าว และจะระดมพนักงานภาครัฐและเอกชนไปชุมนุมกันที่รัฐสภาในวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสภา เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีราชปักษาลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ประธานาธิบดีราชปักษาไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนนับตั้งแต่เกิดเหตุประชาชนหลายหมื่นคนพยายามบุกเข้าไปในบ้านพักส่วนตัวของเขาในกรุงโคลัมโบเมื่อวันที่ 31 มีนาคม. -สำนักข่าวไทย