โซล 9 พ.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจ-อินของเกาหลีใต้ใช้การแถลงอำลาตำแหน่งปกป้องนโยบายติดต่อข้องเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ และหวังว่าความพยายามฟื้นฟูสันติภาพและปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีจะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลชุดใหม่
ประธานาธิบดีมุน วัย 69 ปี จะพ้นวาระ 5 ปีในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ เพื่อส่งต่อภารกิจให้แก่นายยุน ซอก-ยอล ผู้นำสายอนุรักษ์นิยมที่กล่าวหานายมุนว่ายอมจำนนให้แก่เกาหลีเหนือ และประกาศจะใช้แสดงความแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมากขึ้นในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีมุนแถลงอำลาที่ทำเนียบประธานาธิบดีในวันนี้โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า สันติภาพคือเงื่อนไขในการอยู่รอดและรุ่งเรือง เขาหวังจากใจว่า ความพยายามฟื้นการเจรจาระหว่างสองเกาหลี ความพยายามปลดนิวเคลียร์และสร้างสันติภาพจะดำเนินต่อไป พร้อมกับยืนยันว่า เหตุผลที่เกาหลีใต้ไม่สามารถเดินหน้าเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะขาดความพยายามและความมุ่งมั่น แต่เพราะมีอุปสรรคที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยความมุ่งมั่นของเกาหลีใต้เท่านั้น เป็นอุปสรรคที่เกาหลีใต้ควรหาทางเอาชนะให้ได้ แต่ไม่ได้พูดชัดเจนว่าอุปสรรคที่ว่าคืออะไร
ประธานาธิบดีมุนรับตำแหน่งในปี 2560 ดำเนินนโยบายประนีประนอมจนสามารถจัดการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือถึง 3 ครั้งในปี 2561 และนำมาซึ่งการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐในเวลานั้นในปี 2561 และ 2562 แต่หลังจากการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐล้มเหลว เขาถูกวิจารณ์ว่าดำเนินนโยบายที่ช่วยให้เกาหลีเหนือมีเวลาในการพัฒนาอาวุธ.-สำนักข่าวไทย