ยูเครน 6 พ.ค.- สถานการณ์ในยูเครนยังคงต้องจับตาที่เมืองมาริอูโพล ที่รัสเซียพยายามรุกเข้าไปยึดที่มั่นสุดท้ายของทหารยูเครน และความพยายามของสหประชาชาติในการอพยพประชาชนที่ติดค้างอยู่
สหประชาชาติได้เปิดปฏิบัติการรอบที่ 3 เพื่อช่วยเหลือพลเรือนที่ติดค้างอยู่ในโรงงานเหล็กกล้า อาซอฟทัล ซี่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของทหารยูเครนในเมืองมาริอูโพลที่กำลังถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนักด้วยการบุกเข้าไปภายในโรงงานในช่วง 3 วันที่ผ่านมาทางสหประชาชาติคาดว่า ยังมีพลเรือนอยู่ภายในราว 200 คน หลังจากที่ได้ช่วยเหลือออกมาได้กว่า 500 คนในปฏิบัติการ 2 รอบตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายอันโตนิโอ กูเตียร์เรซ เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบที่โรงงานอาซอฟทัลแห่งนี้ว่า เป็นพื้นที่ขุมนรก ส่วนนายทหารยูเครนในโรงงานก็แจ้งว่า ได้ยืนหยัดต่อสู้อย่างเต็มที่ พร้อมกับกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้อพยพพลเรือน ที่หลบซ่อนจากระเบิดและปืนใหญ่อยู่ในชั้นใต้ดินของโรงงาน
ด้านรัฐบาลรัสเซียปฏิเสธว่า ทหารของตนบุกเข้าไปภายในโรงงาน โดยยังยึดคำสั่งของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียที่ให้ปิดล้อมไว้เท่านั้น ขณะเดียวกันนายปูตินเพิ่งเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนออกคำสั่งให้ทหารที่อยู่ในโรงงานยอมแพ้และวางอาวุธ และรัสเซียรับปากว่าจะเปิดทางให้พลเรือนอพยพอย่างปลอดภัย
ในความช่วยเหลือยูเครนอีกด้าน ตัวแทนนานาชาติร่วมประชุมกันที่โปแลนด์ แล้วตกลงมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเงินรวมกว่า 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นายมาเธอุส โมราเวียซกี้ นายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ ประกาศว่า ความช่วยเหลือก้อนนี้มาจากรัฐบาลประเทศต่างๆ และบริษัทเอกชนทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงเกิดที่คาดเอาไว้
ผู้นำโปแลนด์ชี้ว่า ยูเครนจำเป็นต้องใช้อาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 12,000 ตันทุกๆ วัน ยิ่งไปกว่าความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ยังมีการหารือถือการฟื้นฟูและพัฒนายูเครนด้วย โดยนาง เออร์ซูลา วอนเดอลายเยิ่น ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่า ต้องช่วยเหลือยูเครนในการลงทุนและปฏิรูปด้วยเพื่อกรุยทางสู่การเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
ด้านนายเดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรีของยูเครนก็ตอบรับและระบุว่า การพัฒนาประเทศให้มั่งคั่งและได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปจะถือว่า ยูเครนได้รับชัยชนะที่แท้จริงในสงครามครั้งนี้ .-สำนักข่าวไทย