วอชิงตัน 26 เม.ย.- รัฐบาลสหรัฐตั้งเป้าเพิ่มการเข้าถึงยารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างยาเม็ดแพ็กซ์โลวิดของไฟเซอร์ ด้วยการเพิ่มจำนวนร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการแจกยาฟรีเป็น 2 เท่าของปัจจุบัน
ทำเนียบขาวแถลงว่า ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถสั่งยารักษาจากรัฐบาลกลางได้โดยตรงเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ จากปัจจุบันที่ต้องพึ่งพารัฐบาลระดับรัฐ รัฐบาลกลางจะส่งยาไปให้ร้านขายยาที่ได้รับเลือก รวมทั้งจะส่งไปให้รัฐบาลระดับรัฐและศูนย์ชุมชนโดยตรง ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการจาก 20,000 แห่งในปัจจุบันเป็นมากกว่า 30,000 แห่ง และจะให้ถึง 40,000 แห่งในอีกไม่กี่สัปดาห์
รอยเตอร์รายงานว่า มีคนรับยาแพ็กซ์โลวิดฟรีต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากระเบียบขั้นตอนยุ่งยาก ประกอบกับมีคนรับการตรวจหาเชื้อลดลง และเกรงผลข้างเคียงของยา อย่างไรก็ดี ยาขนานนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับโรคโควิด-19 เพราะผลการทดลองทางคลินิกพบว่า ช่วยให้กลุ่มเสี่ยงสูงมีอัตราการเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ถึงร้อยละ 90 ขณะที่ยาขนานอื่นอย่างยาเม็ดโมลนูพิราเวียและยาฉีดเรมเดซิเวียร์มีประสิทธิภาพน้อยกว่า รัฐบาลสหรัฐตกลงซื้อแพ็กซ์โลวิดมากถึง 20 ล้านเม็ดสำหรับรักษาผู้ป่วยในราคา 530 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,147 บาท) ต่อคอร์ส ไฟเซอร์ตั้งเป้าผลิตให้รัฐบาลได้ 3.5 ล้านคอร์สภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ แต่นับจนถึงครึ่งแรกของเดือนนี้รัฐบาลแจกไปเพียง 1.5 ล้านคอร์สเท่านั้น และร้านขายยายังมียาเหลือมากกว่า 500,000 คอร์ส
รัฐบาลกลางสหรัฐยังเตรียมจะเพิ่มสถานที่ตรวจหาเชื้อในโครงการเทสต์ทูทรีต (Test to Treat) เพื่อให้ชาวอเมริกันรับการตรวจหาเชื้อตามร้านขายยา แล้วรับยารักษาฟรีหากมีผลตรวจเป็นบวก ปัจจุบันมีร้านขายยาเข้าร่วมในโครงการ 2,200 แห่ง ทำเนียบขาวคาดว่า จะมีร้านเข้าร่วมทางออนไลน์เพิ่มอีก 10,000 แห่งในเร็ว ๆ นี้ สหรัฐมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 82.73 ล้านคน มากที่สุดจากทั้งหมด 510 ล้านคนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1 ล้านคน มากที่สุดจากทั้งหมด 6.24 ล้านคนทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย