แคลิฟอร์เนีย 26 เม.ย. – องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ ประกาศเพิกถอนใบอนุญาตนักบินของเทรเวอร์ เจคอบ ยูทูบเบอร์ชาวอเมริกัน หลังได้ข้อสรุปจากการสืบสวนว่า เขาจงใจทำเครื่องบินตกเพื่อเรียกยอดผู้ชมคลิปดังกล่าวบนยูทูบ ซึ่งขณะนี้มียอดผู้เข้าชมคลิปนี้สูงกว่า 2.2 ล้านครั้ง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 เจคอบได้ขับเครื่องบินใบพัดลำเล็กขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือเขตป่าสงวนในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ จากนั้นใบพัดได้หยุดทำงานกะทันหัน เขาพูดกับกล้องในเวลานั้นว่า บินอยู่เหนือเทือกเขาและเครื่องยนต์ดับ จากนั้นได้กระโดดออกจากเครื่องบินพร้อมกับถ่ายคลิปตัวเองในขณะที่ร่อนลงสู่ลานกว้างอย่างโดยปลอดภัยด้วยร่มชูชีพ เจคอบนำคลิปวิดีโอที่เขาถ่ายไว้ทั้งหมดไปอัปโหลดในยูทูบและตั้งชื่อคลิปว่า ‘ผมทำเครื่องบินตก’ (I Crashed My Plane) ในเดือนธันวาคมปีก่อน ซึ่งมียอดวิวสูงกว่า 2.2 ล้านครั้งนับถึงขณะนี้ โดยที่คลิปวิดีโอดังกล่าวยังแสดงให้เห็นภาพเครื่องบินไร้คนขับร่วงตกไปในหุบเขาในพื้นที่ห่างไกล
องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐได้สรุปผลการสืบสวนเหตุเครื่องบินตกดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า เจคอบจงใจทำเครื่องบินตกเพื่อให้ตนเองได้เล่นบทเป็นนักแสดงผาดโผน เนื่องจากพบหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เจคอบไม่ระมัดระวัง ขาดการไตร่ตรอง และไร้ความรับผิดชอบจากการตัดสินใจกระโดดออกจากเครื่องบินเพื่อบันทึกวิดีโอเครื่องบินตก องค์การฯ ยังระบุว่า พบข้อพิรุธมากมายจากเหตุเครื่องบินตก เช่น เจคอบไม่พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ ไม่พยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ และไม่หาพื้นที่ปลอดภัยเพื่อนำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉิน แต่กลับเลือกกระโดดออกจากเครื่องบินพร้อมกับใช้กล้องบันทึกภาพเพื่อให้ได้คอนเทนต์สุดระทึก องค์การฯ จึงขอสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคลของเจคอบ และสั่งให้คืนใบอนุญาตในทันที ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับสูงสุดวันละ 1,644 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 56,290 บาท)
ในขณะเดียวกัน เจคอบได้เผยผ่านช่องยูทูบเมื่อวันเสาร์หลังได้รับคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนักบินว่า เขาไม่คิดว่าการโพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินตกดังกล่าวจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตกระทบหลายฝ่ายเช่นนี้ พร้อมทั้งระบุว่า องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐใช้บทลงโทษที่ใจร้ายกับเขามากเกินไป เขายินดีที่จะคืนใบอนุญาตนักบินและยุติเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะเขาถูกเกลียดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย