สตอกโฮล์ม 25 เม.ย.- งบประมาณด้านกลาโหมของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ในปี 2564 ทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรก กว่าครึ่งเป็นงบของสหรัฐ จีน อินเดีย สหราชอาณาจักรและรัสเซียรวมกัน
สถาบันวิจัยสันติภาพสากลสตอกโฮล์มเผยแพร่รายงานฉบับใหม่ในวันนี้ว่า ปี 2564 ทั่วโลกใช้งบประมาณด้านกลาโหมรวมกัน 2.113 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71.8 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน และทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ทั้งที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยคิดเป็นร้อยละ 2.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) โลกในปี 2564 งบกลาโหมโลกร้อยละ 62 เป็นงบของ 5 ชาติรวมกัน ได้แก่ สหรัฐ จีน อินเดีย สหราชอาณาจักรและรัสเซีย
รายงานระบุว่า ปี 2564 สหรัฐใช้งบกลาโหม 801,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 27.22 ล้านล้านบาท) ลดลงร้อยละ 1.4 จากปี 2563 โดยพบว่าช่วงปี 2555-2564 สหรัฐได้เพิ่มการใช้จ่ายด้านการพัฒนาและการวิจัยทางทหารถึงร้อยละ 24 และลดการใช้จ่ายด้านการจัดซื้อจัดจ้างลงร้อยละ 6.4 บ่งชี้ว่าสหรัฐกำลังมุ่งเน้นเรื่องเทคโนโลยีรุ่นใหม่เพื่อให้ได้เปรียบประเทศคู่แข่ง ด้านรัสเซียใช้งบกลาโหม 65,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.24 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เพราะเป็นปีที่รัสเซียเพิ่มการประจำกำลังตามพรมแดนด้านยูเครน โดยได้อานิสงส์จากราคาพลังงานโลกที่เพิ่มขึ้น
ส่วนจีนใช้งบกลาโหมมากเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ 293,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.95 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากปี 2563 และเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 27 ติดต่อกัน รายงานชี้ว่า การที่จีนแสดงจุดยืนทางทหารแข็งกร้าวขึ้นในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกผลักดันให้หลายประเทศในภูมิภาคนี้เพิ่มงบกลาโหม เช่น ญี่ปุ่นใช้งบกลาโหม 54,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.84 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 และเพิ่มขึ้นต่อปีสูงที่สุดนับจากปี 2515 เช่นเดียวกับออสเตรเลียที่ใช้งบกลาโหม 31,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.08 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.-สำนักข่าวไทย