เคียฟ 22 เม.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อ้างว่า กองทัพรัสเซียคว้าชัยชนะจากการก่อสงครามครั้งใหญ่ในยูเครนด้วยการประกาศว่า รัสเซียสามารถ ‘ปลดแอก’ เมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน หลังปิดล้อมเมืองนี้มานานเกือบ 2 เดือน ขณะที่สหรัฐแย้งว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวของผู้นำรัสเซียเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
ประธานาธิบดีปูตินอ้างว่า กองทัพรัสเซียคว้าชัยชนะจากการก่อสงครามครั้งใหญ่ในยูเครนด้วยการประกาศว่า รัสเซียสามารถ ‘ปลดแอก’ เมืองมารีอูปอลสำเร็จ ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ยังคงมีทหารและพลเรือนของยูเครนอีกหลายร้อยคนหลบซ่อนอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลในเมืองมารีอูปอล โดยที่ประธานาธิบดีปูตินได้สั่งให้กองทัพรัสเซียปิดล้อมโรงงานแห่งนี้อย่างแน่นหนาอย่างที่แมลงวันตัวเดียวก็ไม่อาจบินหนีออกมาได้
อย่างไรก็ดี กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐเข้าใจว่ากองทัพยูเครนยังคงยืนหยัดต้านกองทัพรัสเซียอยู่ในเมืองมารีอูปอล และเรียกข้อกล่าวอ้างปลดแอกเมืองนี้ของประธานาธิบดีปูตินว่าเป็นลูกไม้เดิม ๆ ของรัสเซียเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐยังประกาศมอบเงินสนับสนุนกองทัพยูเครนเพิ่มอีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 27,000 ล้านบาท) รวมถึงการส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครนอีกด้วย ด้านทางการยูเครนเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินต้องการหลีกเลี่ยงการปะทะครั้งสุดท้ายกับกองทัพยูเครนในเมืองมารีอูปอล เนื่องจากรัสเซียมีกำลังทหารไม่เพียงพอที่จะเอาชนะทหารยูเครนได้
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุผ่านคลิปวิดีโอในงานสัมมนาของธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ว่า เขาขอให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธให้แก่ยูเครนเพิ่มเติม และประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียมากขึ้น ยูเครนจำเป็นต้องใช้งบประมาณเดือนละ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (23.7 ล้านล้านบาท) เพื่อชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการบุกโจมตีของรัสเซีย นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังกล่าวหากองทัพรัสเซียว่าได้กระทำการโหดร้ายทารุณในหลายเมืองของยูเครน เช่น เมืองมารีอูปอล และเรียกร้องให้นานาประเทศตัดความสัมพันธ์กับรัสเซีย. -สำนักข่าวไทย