รัฐบาลสหรัฐจะอุทธรณ์เลิกสวมหน้ากากฯถ้า CDC เห็นด้วย

วอชิงตัน 20 เม.ย.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจะอุทธรณ์คำชี้ขาดให้ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะ หากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือซีดีซี (CDC) เห็นว่าจำเป็นต้องสวมต่อไปเพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019


กระทรวงยุติธรรมสหรัฐแถลงว่า จะอุทธรณ์คำชี้ขาดเมื่อวันจันทร์ของผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางรัฐฟลอริดาที่ระบุว่าคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะที่ใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 และจะหมดอายุในวันที่ 3 พฤษภาคม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากซีดีซีพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องสวมต่อไปเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข ด้านโฆษกซีดีซีเผยว่า จะเดินหน้าประเมินเรื่องความจำเป็นดังกล่าวโดยพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องระดับการติดเชื้อในชุมชน ความเสี่ยงที่จะเกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แนวโน้มยอดติดเชื้อและความรุนแรงของโรค อย่างไรก็ดี ซีดีซีขอย้ำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งสาธารณะเมื่ออยู่ในที่ปิดต่อไป

อัตราการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในสหรัฐกำลังเพิ่มขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิตเกินวันละ 400 คนตามอัตราเฉลี่ยช่วง 7 วันล่าสุด ทำให้ยอดเสียชีวิตรวมกว่า 1 ล้านคนแล้ว และมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 82.4 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]