fbpx

อินโดนีเซียถูกวิจารณ์ตั้งนักร้องเป็นโฆษกงานประชุมจี 20

จาการ์ตา 18 เม.ย. – รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลังประกาศแต่งตั้ง อายุนดา ฟาซา มาวดียา นักร้องและนักแสดงหญิงชื่อดัง วัย 27 ปี ให้ดำรงตำแหน่งโฆษกของงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 ที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแผนของรัฐบาลในการเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่


สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้แต่งตั้งให้ อายุนดา ฟาซา มาวดียา หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ มาวดี อายุนดา ดำรงตำแหน่งโฆษกของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ในการประชุมของกลุ่มจี 20 ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายตั้งข้อสังเกตว่า ประกาศดังกล่าวเป็นการแต่งตั้งบุคคลมีชื่อเสียง ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ และลูกหลานมหาเศรษฐีให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองครั้งล่าสุดของรัฐบาลอินโดนีเซียที่กำลังหาทางดึงคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในรัฐบาลเพื่อรับมือกับปัญหาอัตราว่างงานสูง

วาซิสโต ราฮาร์โจ จาตี นักวิจัยด้านการเมืองของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งอินโดนีเซีย ให้ความเห็นว่า การแต่งตั้งอายุนดาให้ดำรงตำแหน่งโฆษกงานประชุมกลุ่มจี 20 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดทอนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ในปัญหาด้านต่าง ๆ เช่น ปัญหาว่างงานและบริการสาธารณะ แผนของรัฐบาลอินโดนีเซียมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ในเขตเมืองที่เป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหาเสียงของรัฐบาล แต่กลับละเลยกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำและอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท


รัฐบาลอินโดนีเซียได้แต่งตั้งอายุนดา ซึ่งไม่มีประสบการณ์ทำงานด้านการทูตหรือเศรษฐกิจ ให้ดำรงตำแหน่งโฆษกของงานประชุมจี 20 เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา อายุนดาได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวในงานแถลงข่าวครั้งแรกด้วยการไม่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ขอให้เธอแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมของกลุ่มจี 20 ขณะที่คณะผู้จัดงานขอให้ผู้สื่อข่าวเปลี่ยนไปถามอายุนดาเกี่ยวกับเรื่องบุคลิกภาพของเธอแทน ทั้งนี้ อายุนดาได้เผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า หน้าที่หลักของเธอคือการรายงานสรุปผลการประชุมของกลุ่มจี 20 ที่มีความเชื่อมโยงกับอินโดนีเซีย แต่จะมีตัวแทนของรัฐบาลทำหน้าที่ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นที่ละเอียดอ่อน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน