มารีอูปอล 12 เม.ย. – นายกเทศมนตรีของเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อม เผยว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 รายที่เมืองมารีอูปอลนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ขณะที่อังกฤษเตือนว่า การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า
นายวาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอล เผยกับสำนักข่าวเอพีเมื่อวันจันทร์จากพื้นที่นอกเมืองมารีอูปอลว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 10,000 รายที่เมืองมารีอูปอล และยังคงมีพลเรือนราว 120,000 คนติดค้างอยู่ในเมืองดังกล่าว โดยที่ประชาชนเหล่านี้ต้องการอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรคโดยด่วน เขายังได้รับรายงานว่า กองทัพรัสเซียกำลังเก็บศพพลเรือนและนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมือง รวมถึงการนำศพไปใส่ตู้คอนเทนเนอร์ท้ายรถบรรทุกแล้วจุดไฟเผา อย่างไรก็ดี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อกล่าวหาดังกล่าวของนายบอยเชนโกได้อย่างอิสระ
ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมของอังกฤษเตือนว่า การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า เนื่องจากรัสเซียยังคงตั้งเป้าบุกโจมตีพื้นที่ดังกล่าวต่อไป ขณะนี้ กองทัพรัสเซียได้มุ่งโจมตีพื้นที่ใกล้แคว้นโดเนสตก์และแคว้นลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงพื้นที่รอบเมืองเคอร์ซันและเมืองไมโคลาอีฟ ทางตอนใต้ของยูเครน กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังระบุเพิ่มเติมว่า กองทัพรัสเซียยังคงใช้เส้นทางเดินทัพผ่านเบลารุสเพื่อเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของอังกฤษเผยว่า รัสเซียยังตั้งเป้าโจมตีเมืองครามาตอร์สก์ ทางตะวันออกของยูเครน หลังมีพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบรายจากการยิงจรวดถล่มสถานีรถไฟของเมืองดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย