7 เม.ย. – หลังจากรัสเซียเริ่มถอนทัพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของกรุงเคียฟตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนว่ารัสเซียได้ปรับเปลี่ยนไปมุ่งเน้นพื้นที่ทางตะวันออกแล้ว ขณะที่ยังถูกทั่วโลกประณามการสังหารพลเรือน
แถบชานกรุงเคียฟ และเมืองต่างๆ ทางตอนเหนือในขณะนี้ ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยของยูเครนได้เข้าไปสำรวจ ค้นหา และช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งกำจัดซากรถถังและอาวุธที่กองทัพรัสเซียทิ้งเอาไว้ พวกเขาได้พยายามเตือนประชาชนไม่ให้เข้าไปยังบางพื้นที่ เพราะยังมีกับระเบิดหลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชนบทหรือเขตเมือง พบว่ามีระเบิดและจรวดที่ไม่ระเบิดตกค้างอยู่จำนวนมากในซากปรักหักพังต่างๆ ทำให้การค้นหาผู้รอดชีวิตและศพตามซากบ้านเรือนเป็นไปอย่างยากลำบาก
จากการรายงานของกองทัพยูเครนและชาติตะวันตก พบว่ากองทัพรัสเซียได้ถอยทัพไปจากพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ และกำลังปรับทัพเพื่อหันไปมุ่งเน้นพื้นที่ทางตะวันออก หรือภูมิภาคดอนบาส ซึ่งกบฏฝักใฝ่รัสเซียได้พยายามแบ่งแยกดินแดนมานานกว่า 8 ปี รัฐบาลยูเครนจึงได้ประกาศเตือนประชาชนในดอนบาสให้อพยพออกมาโดยเร็วที่สุด ขณะที่รัสเซียได้โจมตีถี่ขึ้นแล้ว
ส่วนที่เมืองบูจา ติดทางเหนือของกรุงเคียฟ ที่ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าได้สังหารพลเรือนตั้งแต่เข้ายึดครองตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม โดยพบศพ 410 คนแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครได้รวบรวมศพเพื่อการชันสูตรและรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ พวกเขากล่าวว่า หลายศพถูกมัดมือ และมีรอยกระสุนด้านหลังศีรษะ ที่สุสานของเมืองได้รับร่างของผู้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 300 ราย แต่เจ้าหน้าที่เผยว่ายังมีอีกหลายรายที่ถูกฝังในหลุมศพหมู่
กรณีของเมืองบูจา ทำให้ทั่วโลกประณามรัสเซีย และรัฐบาลหลายประเทศได้ออกมาตรการลงโทษเพิ่มขึ้นอีก ส่วนประชาชนก็ได้รวมตัวประท้วง เช่นที่เยอรมนี มีผู้คนหลายพันคนได้ใช้วิธีประท้วงที่เรียกว่า “นอนตาย” บนสนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงเบอร์ลิน ผู้ประท้วงยังได้เรียกร้องให้ทั่วโลกลงมือยับยั้งรัสเซีย โดยเฉพาะการหยุดนำเข้าก๊าซซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัสเซียในทันที
เช่นเดียวกับที่กรุงทลิบิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย ประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ผู้คนได้จัดการประท้วงแบบนอนตาย ที่อาคารรัฐสภา บางคนมัดมือตัวเองไว้ด้านหลัง บางคนจำลองสภาพเหมือนกับศพผู้คนในเมืองบูจา หลายคนเป็นชาวรัสเซียที่มาร่วมประท้วง บอกว่าอันตรายมากที่จะต่อต้านสงครามในรัสเซีย
ขณะนี้รัฐบาลรัสเซียยังคงปฏิเสธเหตุการณ์ที่เมืองบูจา และยืนกรานว่าไม่เคยโจมตีพลเรือนเลย เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงล่าสุดว่า ประชาชนที่เสียชีวิตเป็นฝีมือของกองกำลังนีโอนาซีชาวยูเครน โดยที่รัฐบาลยูเครนเป็นผู้สนับสนุนการเข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้กล่าวหายูเครนว่าจงใจเตะถ่วงการแลกเปลี่ยนเชลย บิดพลิ้วข้อตกลงที่ทำกันไว้แล้วยังได้ซ้อมทรมารทหารรัสเซียด้วย. – สำนักข่าวไทย