อิสลามาบัด 1 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่านของปากีสถานกล่าวหาสหรัฐว่า แทรกแซงการเมืองปากีสถาน หลังจากรัฐสภาเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเขาเมื่อวันพฤหัสบดีไปเป็นวันอาทิตย์นี้
นายกรัฐมนตรีข่านวัย 69 ปี เผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งในปี 2561 เพราะถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าบริหารจัดการเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศผิดพลาด ขณะที่รัฐบาลต้องรับมือกับกลุ่มตอลิบานปากีสถานที่ประกาศจะก่อเหตุโจมตีทางการหนักมือขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอนที่กำลังจะมาถึง นายข่านแถลงต่อประชาชนทั่วประเทศเมื่อค่ำวานนี้โดยทำทีเป็นหลุดชื่อสหรัฐว่า ได้รับข้อความจากต่างชาติประเทศหนึ่งว่าความโกรธแค้นในปากีสถานจะมลายหายไป หากเขาพ่ายแพ้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สื่อปากีสถานรายงานว่า เอกอัครราชทูตปากีสถานในสหรัฐได้บันทึกเสียงขณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศจะดีขึ้นหากนายข่านพ้นจากตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีปากีสถานพูดประเด็นนี้ครั้งแรกโดยใช้คำว่า มหาอำนาจต่างชาติ ขณะกล่าวกับผู้สนับสนุนในกรุงอิสลามาบัดเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว เขากล่าวอ้างมาโดยตลอดว่า ปากีสถานเสียสละมากมายให้แก่สงครามปราบปรามก่อการร้ายของสหรัฐที่เริ่มขึ้นหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 แต่กลับได้รับการยอมรับหรือตอบแทนน้อยมาก เขาหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นอีกครั้งในการกล่าวเมื่อคืนวานนี้ และหยิบยกผลงานอื่น ๆ ตลอดการแถลงนาน 45 นาที
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายข่านถูกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดียวกันกับเขาสั่งระงับและเลื่อนไปเป็นเช้าวันอาทิตย์ โดยอ้างว่า สส.ไม่ยอมอภิปรายประเด็นอื่นก่อน พรรคพีทีไอ (PTI) ของนายข่านเสียเสียงข้างมากในสมัชชาแห่งชาติซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลประกาศเมื่อวันพุธว่า สส. 7 คนจะยกมือให้ฝ่ายค้าน ขณะที่ สส.พรรคพีทีไอสิบกว่าคนก็แสดงท่าทีแล้วว่าจะสวนมติพรรค นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า กองทัพซึ่งมีบทบาทต่อการเมืองปากีสถานไม่ให้การสนับสนุนนายข่านแล้ว.-สำนักข่าวไทย