31 มี.ค. – หลังจากเพิ่งมีความหวังเมื่อวันอังคาร ที่รัสเซียประกาศลดระดับการสู้รบ แต่ขณะนี้สถานการณ์กลับมารุนแรงหลายพื้นที่ รัสเซียยังระดมกำลังทหารและโจมตีหลายจุดอย่างต่อเนื่อง
รัสเซียได้ประกาศลดการสู้รบในการเจรจาที่ตุรกี แต่ผ่านมาขณะนี้ยังคงมีการโจมตีในพื้นที่รอบกรุงเคียฟ และทางตอนเหนือ ยิ่งไปไปกว่านั้นยังได้รุกคืบมากขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ทั้งทางใต้และทางตะวันออก แล้วในภูมิภาคดอนบาส ที่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนยังพบการระดมกำลังทหารรัสเซียเข้าไปเพิ่มขี้น
ความเคลื่อนไหวของรัสเซียเช่นนี้ มีคำยืนยันจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่ได้เผยภาพการโจมตีทางอากาศด้วยอาวุธความแม่นยำสูงเพื่อทำลายระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานของยูเครนได้สำเร็จ โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นพื้นที่ไหน
นอกจากนั้น พลตรี อีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า กำลังวางกำลังพลใหม่ โดยรอบกรุงเคียฟ และตอนเหนือของยูเครน เขายังได้อธิบายแผนรบด้วยว่ารัสเซียได้บรรลุเป้าหมายแรกของการรบ คือ เบนความสนใจและทหารของศัตรูไปตามเมืองใหญ่ๆ ซึ่งประสบความสำเร็จแล้ว จากนี้ไปรัสเซียก็จะมุ่งไปยังพื้นที่หัวใจของปฏิบัติการครั้งนี้ นั่นก็คือภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งพื้นที่สู้รบระหว่างกบฏกับรัฐบาลมานาน 8 ปีนั่นเอง
ด้านนายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ยืนยันความเคลื่อนไหวสำคัญของรัสเซียในดอนบาส เขาแถลงล่าสุดว่า รัสเซียได้ระดมกำลังทหารเพิ่มขึ้น และแถบกรุงเคียฟก็ยังโจมตีไม่หยุด จึงเห็นได้ว่าแม้มีกระบวนการเจรจาอยู่ แต่มีเพียงคำพูดสวยหรู โดยไม่มีการลงมือทำจริง ดังนั้นยูเครนเชื่อใครไม่ได้และจะปกป้องผืนดินทุกตารางเมตร และพลเมืองทุกคน
ในบางพื้นที่ที่ทหารยูเครนได้ยึดคืนมาได้ เช่น เมืองเออร์พิน ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบหนักหน่วงมากเป็นเสมือนแนวป้องกันเมืองหลวง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเริ่มเข้าไปนำศพของประชาชนที่เสียชีวิตจากการโจมตี โดยที่ยังได้ยินเสียงระเบิดจากการสู้รบอยู่ไม่ไกล
ส่วนทางใต้ เมืองมาริอูโพล ซึ่งเป็นเมืองที่ถูกโจมตีหนักมากจนแทบไม่เหลือความเป็นเมืองแล้ว อาคารกว่าร้อยละ 90 ถูกทำลาย ประชาชนเกือบ 5,000 คนถูกสังหาร และคาดว่าอาจจะถูกรัสเซียเข้ายึดได้ในอีกไม่นาน โดยที่ยังมีชาวเมืองอีกราว 170,000 คนอยู่ภายในเมือง. – สำนักข่าวไทย