สหรัฐ 27 มี.ค. – ทำเนียบขาวอธิบายคำพูดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวโจมตีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่โปแลนด์ ไม่ได้มุ่งจะให้เกิดการเปลี่ยนรัฐบาลรัสเซีย
หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวปราศรัยโจมตีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อย่างดุดัน ระหว่างการเยือนโปแลนด์เมื่อวานนี้ รวมทั้งระบุว่า ผู้นำรัสเซียไม่สามารถอยู่ในอำนาจได้อีกต่อไปแล้ว ทำเนียบขาวได้ออกมาแถลงอธิบายว่าประเด็นหลักของนายไบเดน ไม่ได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนรัฐบาล หรือตัวผู้นำของรัสเซีย เพียงแต่ต้องการสื่อว่าผู้นำรัสเซียจะไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้อำนาจต่อเพื่อนบ้าน หรือภูมิภาคได้อีกต่อไป ซึ่งข่าวระบุว่าทำเนียบขาวพยายามลดทอนท่าทีเพื่อไม่ให้เป็นการไปกดดันฝ่ายรัสเซียมากเกินไป
ด้าน เครมลิน พาเลซ ทำเนียบประธานาธิบดี ของรัสเซีย แถลงตอบโต้กรณีดังกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้รับการเลือกตั้งโดยประชาชนชาวรัสเซีย ผู้นำสหรัฐไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับรัฐบาล หรือผู้นำของรัสเซีย
ส่วนสถานการณ์การสู้รบในยูเครน ผู้ว่าการเมืองลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซียได้ยิงจรวดโจมตีเมืองลวีฟ 4 ลูก ถล่มเป้าหมายที่เป็นคลังเก็บน้ำมันและโรงงานผลิตด้านการทหาร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน การยิงจรวดโจมตีเมืองลวีฟมีขึ้นขณะผู้นำสหรัฐกล่าวปราศรัยโจมตีการบุกรุกรานยูเครนของรัสเซียที่โปแลนด์ ทำให้ผู้ว่าการเมืองลวีฟกล่าวด้วยว่ารัสเซียยิงจรวดทักทายผู้นำสหรัฐที่กำลังอยู่ในโปแลนด์ เมืองลวีฟอยู่ห่างพรมแดนโปแลนด์เพียง 60 กิโลเมตร รัสเซียยิงจากเมืองเซวาสโตโปลในแคว้นไครเมียที่รัสเซียผนวกเอาจากยูเครนเมื่อปี 2557
ด้านชาวเมืองซลาฟอูทิช ที่อยู่ทางเหนือของกรุงเคียฟ และทางตะวันตกเมืองเชอร์นิฮีฟ และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพนักงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลของยูเครน พากันไปชุมนุมที่ใจกลางเมือง ร่วมถือธงชาติและร้องเพลงชาติยูเครน เพื่อแสดงพลังต่อต้านรัสเซีย หลังเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า ทหารรัสเซียได้เข้ายึดเมืองพร้อมจับลักพาตัวนายกเทศมนตรีของเมืองซลาฟอูทิช แต่ต่อมาสื่อบางสำนักรายงานรัสเซียได้ปล่อยตัวนายกเทศมนตรีเมืองซลาฟอูทิชแล้ว
การโจมตีเมืองลวีฟ และการบุกยึดเมืองซลาฟอูทิช มีขึ้นหลังรัสเซียเพิ่งประกาศให้ปฏิบัติการทางทหารระยะแรกในยูเครนเสร็จสิ้น และประสบความสำเร็จ และจะปรับกลยุทธ์ไปที่การปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ที่ซึ่งกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียสนับสนุนครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่. – สำนักข่าวไทย