กินตานาโร 14 มิ.ย. – ธุรกิจการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของเม็กซิโก กำลังได้รับกระทบจากสาหร่ายทะเลที่ถูกซัดมาเกยเต็มชายหาด ส่งผลให้ยอดจองห้องพักลดลงไปมาก ภาพถ่ายมุมสูงเห็นสาหร่ายซาร์กัสซัม (sargassum) สีน้ำตาลจำนวนมหาศาล กองสะสมเต็มชายหาดปลายา เดล การ์เมน รัฐกินตานาโร ทางตอนใต้ของเม็กซิโก เจ้าหน้าที่ทั้งระดับรัฐและรัฐบาลกลางกำลังช่วยกันตักสาหร่ายเหล่านี้ออกจากชายหาดที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำทะเลสีเขียวมรกต เป็นแหล่งดำน้ำตื้นและสถานที่ตากอากาศยอดนิยม ปัญหาสาหร่ายทำให้ยอดจองห้องพักลดลงไปถึงร้อยละ35 ขณะที่ยอดขายของร้านอาหารลงไปถึงมากร้อยละ 90 สาหร่ายชนิดนี้อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกมายาวนาน มีรายงานพบครั้งแรกตั้งแต่สมัยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชาวอิตาลีล่องเรือสำรวจมหาสมุทรแห่งนี้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ข้อมูลของกองทัพเรือระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีการกำจัดสาหร่ายซาร์กัสซัมไปแล้วกว่า 4,200 ตัน โดยปกติแล้วช่วงฤดูของเกิดสาหร่ายจะกินระยะเวลานานตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ดี นักวิจัยในเม็กซิโกเตือนว่า ปีนี้อาจจะมีสาหร่ายมากถึง 1 แสนตัน ซึ่งจะส่งกระทบต่อระบบนิเวศน์ เพราะสาหร่ายปริมาณมหาศาลจะทำให้แสงแดดส่องผ่านน้ำทะเลได้น้อยลง และทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดน้อยลง ขณะเดียวกันจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อมนุษย์ เพราะเมื่อเน่าเปื่อยจะปล่อยกาซแอมโมเนีย ก๊าซมีเทน และกรดกำมะถันที่เป็นอันตราย.-816(814).-สำนักข่าวไทย