รัสเซีย 21 มี.ค. – นับตั้งแต่เปิดฉากทำสงครามกับยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เกิดอาการหวาดระแวงอย่างหนัก สั่งปลดเจ้าหน้าที่ทำเนียบเครมลินแล้วนับพันคน เปลี่ยนมานอนตอนเช้า และสั่งทดสอบหายาพิษในอาหารทุกมื้อ
บิสซิเนสอินไซเดอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งปลดเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดในทำเนียบเครมลินถึง 1,000 คน ในคราวเดียวกันช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกสั่งปลดมีตั้งแต่พ่อครัว พนักงานซักล้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเลขาส่วนตัว นักวิเคราะห์มองว่ามาจากความหวั่นวิตกว่าตัวเขาอาจตกเป็นเป้าถูกลอบสังหารจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะยาพิษที่อาจมาจากคนใกล้ตัวมากกว่าสายลับต่างชาติ นัยว่าเพื่อต้องการให้สงครามในยูเครนยุติลง
นอกจากนี้ ปูตินยังได้ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตนับตั้งแต่เปิดศึกกับยูเครน โดยตื่นนอนเวลา 12.00 น. ก่อนเริ่มอาหารมื้อแรกที่ต้องผ่านการตรวจหาสารพิษแล้ว ที่โปรดปรานคือไข่เจียวหรือโจ๊ก แต่ที่ขาดไม่ได้คือไข่นกกระทาและคอทเทจชีส ที่เหมาะสำหรับคนที่คุมน้ำหนัก และต้องการสร้างมวลกล้ามเนื้อเพราะมีโปรตีนสูง ตามด้วยน้ำผลไม้ จากนั้นเขาจะจิบกาแฟและว่ายน้ำเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงที่ผู้นำวัย 69 ปี อยู่ในน้ำบรรดาเจ้าหน้าที่ที่จะเสนอรายงานหรือหารือกิจการงานเมืองให้รับทราบ
เมื่อขึ้นจากสระและเข้าห้องทำงานหลังแต่งตัว ปูตินจะอ่านหนังสือพิมพ์และรายงานสรุปที่เป็นบันทึกย่อที่วางเตรียมไว้บนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ โดยจะไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทุกชนิดเพราะไม่ไว้ใจในเรื่องความปลอดภัยทางออนไลน์ เอกสารทุกอย่างจะอยู่ในรูปของกระดาษอยู่ในแฟ้มสีแดง ยกเว้นโทรศัพท์ที่ใช้โครงข่ายคมนาคมสื่อสารในยุคอดีตสหภาพโซเวียต
ส่วนพฤติกรรมการกินช่วงที่เหลือของวันไม่ละเอียดเท่าช่วงเช้า จากเหตุผลด้านความปลอดภัย หนังสือพิมพ์ปราฟดารายงานว่า ปูติน เลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น มะเขือเทศ แตงกวาและผักกาดหอม และแม้จะชอบเนื้อแกะมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น แต่ส่วนใหญ่เขาเลือกเมนูปลาและปฏิเสธของหวานทุกชนิด.-สำนักข่าวไทย