ฮ่องกง 17 มี.ค. – นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ระบุว่า กำลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 บางส่วน เนื่องจากประชาชนเริ่มทนไม่ไหวต่อการใช้ชีวิตภายใต้มาตรการเข้มงวด แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานรับมือสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิด
นางหล่ำเผยวันนี้ว่า ถึงเวลาที่เธอต้องทบทวนการใช้มาตรการต่าง ๆ อีกครั้ง การตัดสินใจเช่นนี้ไม่ได้เป็นเพราะยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ลดลง แต่เป็นเพราะเธอรู้สึกว่าประชาชนเริ่มทนไม่ไหวต่อการใช้ชีวิตภายใต้มาตรการเข้มงวด สถาบันการเงินหลายแห่งของฮ่องกงก็เริ่มทนไม่ไหวจากการใช้มาตรการคุมเข้มที่ทำให้ฮ่องกงอยู่อย่างโดดเดี่ยวในเวทีโลก อย่างไรก็ดี นางหล่ำไม่ยอมเปิดเผยถึงแผนงานรับมือสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิดในฮ่องกง โดยระบุเพียงว่า สิ่งที่ยากที่สุดในการรับมือกับโรคโควิดก็คือรัฐบาลไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เธอเข้าใจดีว่าสังคมต้องการคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเธอจะประกาศความคืบหน้าให้ทุกคนทราบในวันที่ 21 หรือ 22 มีนาคม
การแถลงข่าวรายวันของนางหล่ำเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดแทบจะไม่ทำให้ข่าวลือที่ว่ารัฐบาลฮ่องกงเตรียมวางแผนตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนเป็นวงกว้างและประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์หายไป แม้นางหล่ำได้เน้นย้ำว่ายังไม่มีการประกาศแผนดังกล่าวอย่างเป็นทางการก็ตาม ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฮ่องกงถูกหลายฝ่ายตำหนิเกี่ยวกับการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนต่อสาธารณชนเกี่ยวกับแผนรับมือการระบาดระลอกที่ห้า ซึ่งทำให้ฮ่องกงมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตราว 4,600 คนภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน ขณะนี้ ฮ่องกงมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 975,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,800 คน.-สำนักข่าวไทย