มะนิลา 16 มี.ค. – ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ระบุว่า โรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับปัญหายากจนอย่างรุนแรงในปี 2564 โดยมีประชากรยากจนเพิ่มขึ้นถึง 4.7 ล้านคน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รายงานของเอดีบีระบุว่า ตัวเลขประชากรที่มีฐานะยากจนมาก ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีเงินใช้จ่ายน้อยกว่าวันละ 1.90 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64 บาท) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นเป็น 24.3 ล้านคนในปี 2564 หรือคิดเป็นร้อยละ 3.7 ของประชากรทั้งหมด 650 ล้านคนของภูมิภาคดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในช่วงก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีตัวเลขประชากรยากจนมากลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ในปี 2562 มีประชากรยากจนมากเพียง 14.9 ล้านคน ลดลงจาก 18 ล้านคนในปี 2561 และ 21.2 ล้านคนในปี 2560
นายมาซาสึงุ อาซากาวะ ประธานของเอดีบี กล่าวว่า โรคโควิดทำให้เกิดปัญหาว่างงานเป็นวงกว้าง ซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางสังคม และทำให้ปัญหายากจนทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง แรงงานหนุ่มสาว และผู้สูงวัยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขายังเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ เร่งแก้ปัญหาระบบสาธารณสุข ปรับปรุงระเบียบข้อบังคับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเร่งอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย