ซิดนีย์ 14 มี.ค.- เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเตือนว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข็มกระตุ้นที่ล่าช้า อาจทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ เนื่องจากเชื้อไวรัสโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 สามารถแพร่กระจายได้ง่ายมาก
ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนระบาดในช่วงต้น สถานการณ์เริ่มทรงตัวในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐต่าง ๆ ผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม บังคับสวมหน้ากากอนามัยเฉพาะในที่ร่ม และให้คนกลับมาทำงานที่สำนักงาน แต่นายแบรด แฮซซาร์ด รัฐมนตรีสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์เตือนระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ในวันนี้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายวันอาจเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 4-6 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยมีแนวโน้มจะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ทำให้คนต้องเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นและเสียชีวิตมากขึ้น เขายอมรับว่า ความไม่ชัดเจนก่อปัญหาใหญ่ให้แก่ผู้ที่ต้องการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากร 8 ล้านคน มีผู้เข้าเกณฑ์รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากกว่า 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดเข็มดังกล่าว
ข้อมูลของทางการออสเตรเลียเผยว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์มีคนอายุ 16 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 57 น้อยกว่าอัตราเฉลี่ยทั้งประเทศที่ร้อยละ 65 ทั้งที่รัฐนี้มีประชากรมากถึง 1 ใน 3 ของประเทศ องค์การอนามัยเผยเมื่อเดือนก่อนโดยอ้างอิงข้อมูลเบื้องต้นว่า โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ดูเหมือนจะแพร่ได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 ผู้เชี่ยวชาญขอให้ทางการออสเตรเลียนำมาตรการจำกัดกลับมาใช้อีกครั้ง แต่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันยืนยันว่า ต้องการนำประเทศเข้าสู่การมีชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัส ให้เหมือนกับเป็นไข้หวัดธรรมดา.-สำนักข่าวไทย