รัสเซียถล่มฐานทัพสำคัญของยูเครนใกล้โปแลนด์

รัสเซีย 13 มี.ค.- กองทัพรัสเซียเดินหน้าโจมตียูเครนต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 ล่าสุด ยิงถล่มฐานทัพสำคัญของยูเครนใกล้พรมแดนโปแลนด์ ขณะที่ยูเครนอ้างมีทหารพลีชีพไปแล้ว 1,300 นาย แต่สามารถสังหารทหารรัสเซียได้มากอย่างไม่น่าเชื่อถึง 12,000 นาย


ช่วงเช้าตรู่วันนี้ (13 มี.ค.) รัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศด้วยการยิงจรวดอย่างน้อย 8 ลูก โจมตีศูนย์สากลเพื่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคง ซึ่งเป็นทั้งฐานทัพอากาศขนาดใหญ่และศูนย์ฝึกนายทหารในเมืองยาโวรีฟ ใกล้กับเมืองลวีฟ เมืองใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกของยูเครน และอยู่ห่างจากพรมแดนประเทศโปแลนด์เพียง 25 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน บาดเจ็บอีกกว่า 60 คน สำหรับเมืองลวีฟมีความสำคัญ คือเป็นศูนย์รองรับผู้ลี้ภัยหนีการโจมตีของรัสเซียจากเมืองต่างๆ ในยูเครน รวมทั้งเป็นเส้นทางที่ผู้ลี้ภัยใช้เดินทางต่อไปยังโปแลนด์ที่อยู่ห่างออกไป 70 กิโลเมตร

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า มีพลเมืองยูเครนราว 7,100 คนเท่านั้น ได้รับการอพยพจาก 4 เมืองสำคัญของยูเครน คือเมืองเชอร์นีฮิฟ เมืองซูมี เมืองคาร์คิฟ และเมืองมารีอูปอล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนวานนี้ไม่สามารถอพยพพลเรือนออกมาได้แม้แต่คนเดียว เหตุเพราะเมืองมาริอูปอลตกอยู่ภายใต้การโอบล้อมและโจมตีอย่างต่อเนื่องจากรัสเซีย และกล่าวหาว่ารัสเซียปฏิเสธที่จะเปิดเส้นทางปลอดภัยให้พลเมืองที่ต้องการอพยพ คำกล่าวอ้างนี้ขัดแย้งกับความเห็นของผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการป้องกันประเทศแห่งชาติของรัสเซียที่บอกว่า กลุ่มชาตินิยมในยูเครนบังคับข่มขู่ชาวบ้านไม่ให้อพยพออกนอกเมือง ทั้งที่รัสเซียเปิดช่องทางมนุษยธรรมครั้งที่ 8 ที่มีปลายทางทั้งในรัสเซียและยูเครน แต่ยูเครนขัดขวางผู้อพยพไม่ให้เดินทางไปยังรัสเซีย แม้จะมีผู้อพยพมากกว่า 2 ล้านคนใน 2,000 ชุมชนทั่วยูเครน ที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางไปยังรัสเซีย เป็นการพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่ารัฐบาลยูเครนชุดปัจจุบันไม่ได้ใส่ใจประชาชนของตนเองเลย


ด้านกระทรวงกลาโหมยูเครนเปิดเผยตัวเลขทหารยูเครนที่เสียชีวิตนับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกราน ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1,300 นาย เป็นครั้งแรกที่ยูเครนเปิดเผยตัวเลขทหารฝ่ายตัวเองที่เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน กระทรวงกลาโหมยูเครนยังอ้างว่า สามารถสังหารทหารรัสเซียได้มากกว่า 12,000 นายนับตั้งแต่การสู้รบเริ่มขึ้น มีทหารรัสเซียอีกกว่า 600 นายยอมวางอาวุธและยอมแพ้ต่อกองทัพยูเครน อีกทั้งยูเครนยังสามารถทำลายรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะของรัสเซียได้มากกว่า 1,500 คัน ซึ่งก็เป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันเช่นกัน

ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ อนุมัติการส่งมอบอาวุธและการฝึกด้านทหารให้ยูเครนอีก 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,600 ล้านบาท) ทำให้ตั้งแต่ต้นปีนี้ สหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือให้ยูเครนแล้วกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์ กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า อาวุธที่สหรัฐฯ จะส่งมอบให้ยูเครนครั้งนี้มีอะไรบ้าง แต่อาวุธที่กองทัพยูเครนกำลังต้องการคือปืนต่อสู้รถถังและปืนต่อสู้อากาศยาน

ในส่วนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี นานกว่า 75 นาที ผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนี พยายามเรียกร้องให้ปูตินออกคำสั่งยุติการโจมตียูเครนในทันที และเริ่มต้นการหาทางออกด้วยการเจรจาทางการทูตอย่างจริงจัง แต่มาครงเปิดเผยหลังจากเจรจาผ่านโทรศัพท์สิ้นสุดลงว่า ปูตินยังไม่แสดงความตั้งใจที่จะยุติสงครามในยูเครน โดยพยายามอธิบายถึงสถานการณ์การสู้รบที่แท้จริงในยูเครน อ้างว่ากองทัพยูเครนใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์เพื่อป้องกันการโจมตีจากรัสเซีย พร้อมฝากให้ผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีไปบอกประธานาธิบดีของยูเครนให้หยุดการกระทำดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ