โซเฟีย 12 มี.ค.- ประเทศในยุโรปตะวันออกรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่หนีการรุกรานของรัสเซียเข้าทำงาน แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การรับหมดทุกคนไม่ใช่เรื่องง่าย
สหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่า มีคนลี้ภัยออกจากยูเครนแล้วราว 2 ล้าน 5 แสนคน เป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ลี้ภัยมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในโปแลนด์ ผู้ลี้ภัยราว 100,000 คนอยู่ในมอลโดวา และอีก 20,000 คนอยู่ในบัลแกเรีย
บัลแกเรียเป็นสมาชิกที่ยากจนที่สุดของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ประสบปัญหาประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว จากที่มีเกือบ 9 ล้านคนช่วงการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย เหลือ 6 ล้าน 5 แสนคนในปัจจุบัน เป็นเพราะบางส่วนอพยพไปอยู่ต่างประเทศ สมาคมองค์กรนายจ้างบัลแกเรียส่งหนังสือถึงรัฐบาลว่า สามารถจ้างงานชาวยูเครนได้มากถึง 200,000 คน ขณะที่ตัวแทนภาคธุรกิจไอที สิ่งทอ ก่อสร้างและท่องเที่ยวเผยว่า ต้องการจ้างงานชาวยูเครนหลายหมื่นคน นายกรัฐมนตรีบัลแกเรียกล่าวชมผู้ลี้ภัยชาวยูเครนว่า ฉลาด มีการศึกษา และมีคุณภาพสูง ขณะที่นายกรัฐมนตรีมอลโดวาขอความช่วยเหลือเร่งด่วนในการดูแลคลื่นผู้ลี้ภัยชาวยูเครน
นักวิชาการมหาวิทยาลัยเวียนนาในออสเตรียมองว่า ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่เดินทางเข้าอียูในขณะนี้ล้วนมีคุณสมบัติตรงตามที่ประเทศเจ้าบ้านต้องการ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกต้อนรับอาจไม่เหมือนเดิม เพราะผู้ลี้ภัยชุดหลังในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้จะมีคุณสมบัติที่ด้อยลง ด้านนักวิชาการมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนของอังกฤษเตือนว่า เมื่อผู้ลี้ภัยจำนวนมากต้องพำนักอยู่เป็นเวลานานจะกลายเป็นภาระต่อประเทศเจ้าบ้าน เพราะหลายคนเป็นเด็กและคนชราที่ไม่สามารถทำงานได้.-สำนักข่าวไทย