9 มี.ค. – โปแลนด์ประกาศมอบเครื่องบินรบให้กับยูเครน เพื่อนำไปต่อสู้กับรัสเซีย แต่กลายเป็นปัญหาเพราะไม่ต้องการมอบให้โดยตรง กลับให้สหรัฐเป็นผู้ส่งต่อ ขณะที่ชาติตะวันตกงัดยาแรงอีกครั้งด้วยการแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย
รัฐบาลโปแลนด์สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศพร้อมส่งมอบเครื่องบิน มิก-29 ทั้งหมดของตนให้กับสหรัฐ เพื่อนำไปมอบให้ยูเครนใช้ในการต่อสู้กับรัสเซีย เมื่อประกาศออกมาทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐแสดงความตกใจ เพราะที่ผ่านมาสหรัฐได้หารือกับโปแลนด์เรื่องช่วยเหลือด้านอาวุธให้ยูเครนจริง แต่ไม่ได้เป็นการมอบเครื่องบินผ่านมือสหรัฐเช่นนี้
เครื่องบินมิก-29 เป็นเครื่องบินที่ผลิตโดยรัสเซีย ซึ่งโปแลนด์ใช้มาตั้งแต่เคยเป็นพันธมิตรของรัสเซียสมัยสงครามเย็น บรรดานักวิเคราะห์มองว่าโปแลนด์อาจต้องการเลี่ยงไม่ให้รัสเซียไม่พอใจ จึงโยนเรื่องนี้ไปให้สหรัฐ ล่าสุดโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ นายจอห์น เคอร์บี้ ได้ปฏิเสธแล้วว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเท่ากับเป็นการนำสหรัฐและนาโต้เข้าสู่การสู้รบโดยตรง
ส่วนการกดดันรัสเซียนั้น ชาติตะวันตกตัดสินใจใช้มาตรการด้านพลังงานซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญชองรัสเซีย ซึ่งที่ผ่านมายังเลี่ยงเพราะเกรงปัญหาความมั่นคงพลังงานจากที่รัสเซียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ แต่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันและพลังงานทุกชนิดจากรัสเซีย โดยให้มีผลในทันที เพื่อช่วยทำลายแหล่งทุนการทำสงครามของรัสเซีย
ส่วนสหราชอาณาจักรประกาศว่าจะค่อยๆ ลดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียภายในปีนี้ นอกจากนั้นสหภาพยุโรปก็เพิ่งทำแผนลดการน้ำเข้าก๊าซจากรัสเซียลง 2 ใน 3 ในปีนี้ แล้วจะค่อยๆ ลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียในระยะยาวด้วย
ส่วนความเคลื่อนไหวของภาคเอกชน มีอีกหลายบริษัทระดับโลกที่ระงับหรือยกเลิกการทำธุรกิจในรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นโคคาโคล่า และเป๊ปซี่ ที่ประกาศระงับการดำเนินธุรกิจในรัสเซีย สตาร์บัคส์ ก็จะปิดร้านกาแฟของตนเป็นการชั่วคราว เช่นเดียวกับแมคโดนัลด์ ที่มี 847 ร้านฟาสต์ฟู้ด และมีพนักงานกว่า 6 หมื่นคนในรัสเซีย ฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อได้ไปเปิดสาขาแรกแห่งนี้ในกรุงมอสโกเมื่อปี 2533
ในการแถลงครั้งล่าสุดจากกรุงเคียฟ นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้ขอบคุณที่มีการแบนน้ำมันรัสเซีย ซึ่งจะช่วยกดดันทางเศรษฐกิจ ตัดเงินทุนที่นำไปซื้อกระสุนและอาวุธมาโจมตีชาติอธิปไตย
ขณะเดียวกันรัฐบาลยูเครนยังกล่าวหารัสเซียว่า บิดพลิ้วเรื่องการเปิดทางอพยพ เพราะสงครามเข้าสู่วันที่ 14 ยังมีชาวยูเครนติดค้างอยู่ในพื้นทีสู้รบมากมาย แม้รัสเซียและยูเครนตกลงหยุดยิง เพื่อเปิดเส้นทางอพยพ หรือที่เรียกว่า ระเบียงมนุษยธรรม ตามที่รัสเซียมาเอง แต่กลับยังโจมตีในพื้นที่เหล่านั้นอยู่ เช่นที่เมืองมาริอูโปล ทางใต้ของยูเครน ประชาชนหลายแสนคนยังต้องหลบภัยอยู่ในชั้นใต้ดินมานานกว่า 1 สัปดาห์ แต่เมื่อพยายามหลบหนีตามที่รัสเซียประกาศ แต่ถูกรัสเซียยิงเข้าใส่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก และจำนวนผู้ลี้ภัยที่หลบหนีออกจากยูเครนไปยังประเทศเพื่อนบ้านมีมากกว่า 2 ล้านคนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทั้งสองฝ่ายยังจะพยายามกันอีก รัสเซียประกาศหยุดยิงตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนอพยพจากเมืองใหญ่ 5 แห่งรวมถึงกรุงเคียฟ
ด้านผู้นำจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ซึ่งไม่เคยประณามรัสเซียหรือใช้มาตรการลงโทษใดๆ เขาเพิ่งกล่าวถึงสงครามยูเครน เรียกร้องให้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างเต็มที่ เพราะจีนรู้สึกเจ็บปวดที่ได้เห็นไฟสงครามปะทุขึ้นอีกครั้งในยุโรป เขากล่าวด้วยว่า สถานการณ์ในยูเครนน่ากังวลอย่างยิ่ง จำเป็นต้องสกัดไม่ให้ขยายวงจนเกินควบคุมได้
นายสี ได้ประชุมร่วมกับผู้นำของฝรั่งเศสและเยอรมนี ผ่านระบบวิดีโอ ซึ่งเขาได้เสนอให้ทั้งสามร่วมกันผลักดันการเจรจา และอีกจุดที่สำคัญคือ ผู้นำจีนเตือนว่า การใช้มาตรการลงโทษรัสเซีย จะบั่นทอนเสถียรภาพการเงิน พลังงาน และห่วงโซ่อุปทานของทั้งโลกได้ . – สำนักข่าวไทย