รัสเซีย 9 มี.ค. – รัสเซียยอมเปิดระเบียงมนุษยธรรม เปิดทางอพยพพลเรือนใน 4 เมือง ดันยอดผู้ลี้ภัยสงครามยูเครนพุ่ง 2 ล้านคน ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทะลุ 1,207 คน เชลล์ทนไม่ไหวยอมระงับซื้อน้ำมันรัสเซีย ขณะที่โคคา-โคลา แมคโดนัลด์ และสตาร์บัคส์ ก็ยอมระงับธุรกิจในรัสเซียเช่นกัน
ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ตั้งแต่รัสเซียส่งกองทัพบุกยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแล้ว 1,207 คน เป็นผู้เสียชีวิต 406 คน และบาดเจ็บ 801 คน แต่จำนวนที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก โดยผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากการโจมตีทางอากาศและระเบิด อาคารที่พักหลายร้อยแห่งในหลายเมืองทั่วยูเครนถูกทำลาย มีรายงานด้วยว่า มีนักข่าวเสียชีวิต 1 คน
สหประชาชาติยังแสดงความหนักใจเกี่ยวกับการกักขังตามอำเภอใจของกลุ่มผู้สนับสนุนยูเครนในหลายพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย และความรุนแรงต่อคนที่ถูกมองว่าสนับสนุนรัสเซียในดินแดนที่รัฐบาลยูเครนยึดครอง
ส่วนจำนวนผู้ลี้ภัยสงครามในยูเครนพุ่งเกิน 2 ล้านคนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนเริ่มอพยพพลเรือนออกจากเมืองซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และเมืองเออร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟ เมื่อวานนี้ หลังรัสเซียอนุญาตให้กำหนดระเบียงมนุษยธรรมตามข้อตกลงหยุดยิง เปิดทางให้พลเรือนอพยพ และยูเครนเรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิงก่อน เพื่อให้ประชาชนอพยพออกไปอย่างปลอดภัย แต่เจ้าหน้าที่ยูเครน กล่าวว่า รัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่ถล่มเส้นทางอพยพจากเมืองมาริอูปอล ทางตอนใต้ของประเทศที่ถูกกองทัพรัสเซียยึดครอง
ผู้อพยพข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันตก เช่น โปแลนด์ ซึ่งรับผู้ลี้ภัยมากที่สุดกว่า 1.2 ล้านคนแล้ว รวมถึงโรมาเนีย สโลวาเกีย ฮังการี และมอลโดวา นอกจากนี้ ยังมีผู้ลี้ภัยจำนวนเล็กน้อยที่อพยพเข้ารัสเซียและเบลารุส และยังมีอีกกว่า 183,000 คน อพยพออกจากประเทศเหล่านี้ ต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป แต่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ยูเครนปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซียให้อพยพชาวยูเครนไปยังรัสเซีย หรือเบลารุส ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรของรัสเซีย
ส่วนมาตรการคว่ำบาตรที่รัสเซียต้องเผชิญยังไม่หมดไป ล่าสุดรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงจากรัสเซียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน แก๊ส และถ่านหิน ตอบโต้ที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน และว่ามาตรการนี้จะกระทบรัฐบาลมอสโกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อย่างหนักหน่วง แต่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ยุโรปส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพราะหลายประเทศยังต้องพึ่งพาพลังงานจากยุโรป มีเพียงอังกฤษเท่านั้นที่ประกาศจะค่อยๆ เลิกนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในปีนี้
ขณะที่ล่าสุดเชลล์ประกาศจะเลิกซื้อน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียแล้ว หลังสงวนท่าทีในตอนแรก จนถูกหลายฝ่ายวิจารณ์หนัก เช่นเดียวกับโคคา-โคลา แมคโดนัลด์ และสตาร์บัคส์ ก็ยอมระงับธุรกิจด้วยการปิดร้านสาขาทั่วรัสเซีย เพื่อประท้วงเช่นกัน. – สำนักข่าวไทย