นีซ 7 มี.ค.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสยังคงติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แม้ว่าผู้นำโลกหลายคนหันหลังให้ผู้นำรัสเซีย ตั้งแต่สั่งกองทัพใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์
ประธานาธิบดีมาครงในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) พยายามใช้วิถีทางทางการทูตสกัดการเกิดสงครามแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ดี เขายังคงสนทนากับประธานาธิบดีปูติน โดยนับได้ 4 ครั้งตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ 11 ครั้งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ นายเบนจามิน ฮัดดัน สมาชิกพรรคอ็องมาร์ชของมาครงเผยว่า ประธานาธิบดีต้องการเปิดช่องทางทางการทูตเอาไว้ เผื่อปูตินอาจต้องการคลี่คลายความตึงเครียดและหาทางออกจากวิกฤต ขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนในการสนทนากับปูตินแทนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน หวังได้ความเมตตาบางอย่าง เช่น หยุดยิงบางพื้นที่ เปิดเส้นทางหลบหนีอย่างปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่ติดอยู่ในพื้นที่ปะทะ และการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านนายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวถึงเสียงวิจารณ์เรื่องมาครงติดกับดักเก่า ๆ ของยุโรปที่มักเอาใจรัสเซียว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ไร้เดียงสา แต่เขารู้ว่าต้องใช้วิธีใด รู้ลักษณะและนิสัยของผู้นำรัสเซีย
ซิลเวีย โคลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอียู สถาบันระหว่างประเทศในกรุงโรมของอิตาลีมองว่า มาครงแตกต่างจากผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ตรงที่เขาเต็มใจจะถูกจับจ้องจากทุกฝ่ายเพื่อผลักดันนโยบายต่างประเทศที่วางไว้ เขาเคยให้การต้อนรับประธานาธิบดีปูตินครั้งแรกที่พระราชวังแวร์ซายส์ในปี 2560 หลังจากนั้น 2 ปี เชิญปูตินมาคุยที่ที่พักฤดูร้อนของประธานาธิบดีริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อหารือเรื่องการเจรจาสันติภาพกับยูเครนที่ชะงักงัน.-สำนักข่าวไทย