นิวเดลี 12 พ.ย.- ชาวอินเดียทั่วประเทศไม่พอใจหนักขึ้นในวันนี้ระหว่างเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอแลกธนบัตรชนิด 500 รูปี และ 1,000 รูปีที่รัฐบาลประกาศยกเลิกใช้อย่างกะทันหันตั้งแต่ค่ำวันอังคาร
ธนบัตรชนิด 500 รูปี และ 1,000 รูปี มีสัดส่วนรวมกันกว่าร้อยละ 80 ของธนบัตรที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ ทำให้ประชาชนขาดแคลนเงินสดในมืออย่างฉับพลัน เนื่องจากเศรษฐกิจอินเดียใช้เงินสดเป็นหลัก นายอาร์วินด์ เกจริวัล มุขมนตรีเขตเดลีที่เป็นคู่ปรับของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ตำหนิการตัดสินใจของนายโมดีว่า ทำลายชีวิตคนยากจนและคนทำงาน ส่วนผู้หลบเลี่ยงภาษีที่นายโมดีต้องการเอาผิดรู้ช่องโหว่ที่จะหลบเลี่ยง
มีรายงานข่าวว่า ประชาชนที่ถูกห้ามเข้าไปในธนาคารแห่งหนึ่งในเขตเดลีเนื่องจากข้างในมีคนเต็มแล้วพากันทุบทำลายกระจกธนาคารอย่างโกรธแค้น หลายคนตำหนินายกรัฐมนตรีว่าไปเยือนญี่ปุ่นทั้งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน ตู้เอทีเอ็มเกือบครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 202,000 เครื่องทั่วประเทศต้องปิดให้บริการเมื่อวานนี้เนื่องจากธนบัตรหมด ประธานหอการค้าผู้ค้าผักผลไม้เดลีกำลังพิจารณาจะปิดตลาดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเพราะไม่เหลือเงินสดแล้ว ส่วนที่นครมุมไบชาวเมืองเผยว่า ร้านค้าของชำเพิ่มราคาเกลือเป็นสิบเท่าหากจ่ายด้วยธนบัตรที่ถูกยกเลิก รัฐบาลอินเดียให้เวลาแลกธนบัตรตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยืนยันว่า ธนาคารแต่ละแห่งมีธนบัตรเพียงพอให้แลกและได้เร่งส่งธนบัตรใหม่ไปยังธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศแล้ว
นายกรัฐมนตรีโมดีให้เหตุผลว่า ต้องการเล่นงานตลาดมืดที่ทำธุรกรรมนอกระบบ ซึ่งอาจมีมูลค่ามากถึง 1 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ตามการประเมินของบริษัทลงทุนแอมบิต นอกจากนี้ยังจะเป็นการกำจัดธนบัตรปลอมชนิด 500 รูปี และ 1,000 รูปีที่กลุ่มติดอาวุธต่อต้านอินเดียนำมาใช้สนับสนุนการก่อความรุนแรงด้วย.-สำนักข่าวไทย