fbpx

สงครามยูเครน : รัสเซียล้อมกรอบกรุงเคียฟ-หวั่นเตรียมบุกครั้งใหญ่

ยูเครน 3 มี.ค. – ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครน รัสเซียยังคงรุกหนักในหลายพื้นที่และเพิ่งยึดเมืองใหญ่แห่งแรกได้ แต่ยังไม่สามารถรุกเข้าไปยังกรุงเคียฟได้


ที่กรุงเคียฟ ซึ่งรัสเซียระดมกองทหารจำนวนมากเข้าไปจากทางเหนือเพื่อพยายามปิดล้อมมาหลายวันแล้ว มีการสู้รบตามแถบชานเมืองด้วยปืนใหญ่และจรวดต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ภายในเขตเมืองหลวง รัสเซียยังไม่ได้รุกคืบเข้าไปได้ ก่อนนี้มีการวิเคราะห์โดยฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐและอังกฤษว่า รัสเซียมีปัญหาด้านการส่งกำลังบำรุง ขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง กองทหารและอาวุธหนักจึงติดค้างอยู่ราว 30 กิโลเมตร จากเมืองหลวงแต่ขณะนี้สัญญาณว่า อาจจะเริ่มโจมตีครั้งใหญ่ พร้อมกับปรับเปลี่ยนมาใช้ยุทธศาสตร์ปิดล้อมเพื่อทำลายล้าง กองทัพรัสเซียได้ออกประกาศเตือนชาวกรุงเคียฟด้วยว่า ให้ชาวกรุงเคียฟอพยพ ออกไปยังเมืองอื่น โดยทหารรัสเซียเปิดทางให้

ต่อมา นายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้แถลงโต้และส่งข้อความปลุกใจว่า ชาวยูเครนจะไม่ยอมถอยจากสงครามของผู้รักชาติ รัสเซียผู้รุกรานจะเผชิญแรงต้านทานอย่างหนัก เขายังได้ขอร้องทหารรัสเซียที่ถูกเกณฑ์มาและหลอกใช้ ส่วนใหญ่อายุ 19-20 ปี ให้ถอยหลังกลับบ้าน ผู้นำยูเครนยังได้ประกาศว่า ผ่านมา 1 สัปดาห์ รัสเซียต้องสูญเสียทหารไปแล้วเกือบ 9,000 คน


ในวันนี้มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะจัดประชุมเจรจากันอีกครั้งที่พรมแดนเบลารุส หลังจากครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ไม่สามารถตกลงอะไรกันได้ โดยครั้งนี้ยูเครนยืนกรานว่า รัสเซียจะต้องหยุดโจมตีเสียก่อนจึงจะเดินหน้าเจรจาได้ ขณะเดียวกันเข้าสู่วันที่ 8 จุดที่รัสเซียยังคงโจมตีอย่างหนัก คือพื้นที่ทางใต้และตะวันออกของยูเครนทางใต้นั้น รัสเซียได้เข้ายึดเมืองเคอร์ซอนได้ ถือว่าเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกที่สามารถยึดครองได้ เมืองเคอร์ซอน ตั้งอยู่ติดทะเลดำที่มีประชากรราว 300,000 คน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บนปากแม่น้ำพร้อมท่าเรือใหญ่ที่สามารถใช้เป็นฐานบัญชาการและส่งกำลังบำรุงได้ เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) นายกเทศมนตรีของเมืองปฏิเสธว่ายังไม่แตกพ่ายและยังยืนหยัดต่อสู้ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าถูกรัสเซียยึดครองแล้ว โดยเขาได้เจรจาขอให้อย่ายิงประชาชน เพราะทหารยูเครนถอนทัพออกไปแล้ว และขอให้ชาวเมืองทำตามคำสั่งต่างๆ ของรัสเซีย

อีกเมืองทางใต้ ที่รัสเซียเปิดการโจมตีหนักที่สุด คือ เมืองมาริอูโพล รัสเซียได้ระดมยิงปืนใหญ่อย่างหนัก มีรายงานว่าเมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ส่วนที่เมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกใกล้พรมแดนรัสเซีย ยังคงต้านทานเอาไว้ได้แม้ว่าเมื่อวานนี้รัสเซียได้ส่งทหารพลร่มเข้าไปและโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่อย่างหนัก ทำให้มีหลักฐานเพิ่มอีกมากมายว่า รัสเซียได้โจมตีเป้าหมายพลเรือน

หลายชาติได้กล่าวหารัสเซียเรื่องนี้ โดยยกหลักฐานการใช้อาวุธต้องห้าม ทั้งคลัสเตอร์บอมล์ หรือ ระเบิดพวงที่บรรจุลูกระเบิดขนาดเล็ก และ ระเบิด เทอร์โมบาริก หรือระเบิดสูญญากาศ ที่ทำลายล้างสูง ที่สำคัญคือนำมาใช้ในพื้นที่พลเรือนทำให้เสียชีวิตจำนวนนี้ ทำให้ขณะนี้ ศาลอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ ได้เริ่มสืบสวนว่า รัสเซียก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยอัยการระบุว่า ได้รวบรวมหลักฐานที่ชี้มูลความผิดเอาไว้ระยะหนึ่งแล้ง จนขณะนี้มีประเทศต่างๆรวม 38 ประเทศ ได้ร่วมร้องเรียนจึงจะเปิดการสืบสวนอย่างเป็นทางการทันที


รัสเซียถูกต่อต้านจากหลายทาง ในทางการทูตนั้น สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ได้จัดประชุมฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี พร้อมกับลงคะแนนรับรองข้อมติให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครนและถอนทหารออกไป โดยมีผู้รับรอง 141 ประเทศ รวมทั้งไทยด้วยแต่มีผู้ที่คัดค้าน 5 ประเทศ คือ รัสเซียเอง เบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือ และเอริเทรีย สำหรับประเทศที่งดออกเสียง มีทั้ง จีน และอิหร่าน ซึ่งมีความใกล้ชิดรัสเซีย รวมถึง อินเดีย ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ไม่แสดงจุดยืนชัดเจนแม้ว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุด

ในทางธุรกิจนั้น มีบริษัทระดับโลกหลายแห่งทะยอยถอนตัวหรือระงับการทำธุรกิจกับรัสเซีย พร้อมกับที่ธนาคารรัสเซียหลายแห่งได้ถูกถอดจากระบบการทำธุรกรรมออนไลน์ระหว่างประเทศ ที่เรียกว่า สวิฟท์ ทำให้ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียลดฮวบ ธนาคารกลางต้องเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายและรัฐบาลต้องตั้งข้อกำหนดควบคุมต่างชาติในการถอนเงินและทรัพย์สินออกนอกประเทศ อีกด้านหนึ่ง ผ่านมาครบสัปดาห์แล้ว ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้รายงานว่า ผู้อพยพลี้ภัยสงครามยูเครนเพิ่มขึ้นเกินล้านคนแล้ว กลายเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆในยุโรป เรียกประชุมด่วนเพือให้ความช่วยเหลือ

การทำสงครามรุกรานยูเครนนี้ ยังคงถูกต่อต้านจากนานาชาติ และชาวรัสเซียในประเทศอย่างต่อเนื่อง เกิดการประท้วงในหลายเมือง เท่าที่ผ่านมามีผู้ถูกจับไปแล้วเกือบหมื่นคน ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์และนักข่าวในรัสเซียหลายพันคน ได้ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์คัดค้านการทำสงครามที่พวกเขาเรียกว่า เป็นการรุกรานที่ยุติธรรมและไร้สติ ซึ่งรัสเซียทั้งประเทศต้องถูกประณามและถูกตัดขาดจากทั่วโลก จึงเรียกร้องให้ยุติการทำสงครามในทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย