เผยชาวยูเครนเสียชีวิตแล้ว 198 รายจากการโจมตีของรัสเซีย

เคียฟ 26 ก.พ. – สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานอ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขยูเครนที่ระบุว่า ชาวยูเครนอย่างน้อย 198 ราย ซึ่งมีเด็ก ๆ รวมอยู่ด้วย เสียชีวิตจากการบุกโจมตีของรัสเซีย


อินแตอร์แฟกซ์รายงานว่า นอกจากผู้เสียชีวิต 198 รายแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1,115 ราย รวมถึงเด็ก 33 ราย หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนโดยระดมโจมตีด้วยขีปนาวุธและปืนใหญ่ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตนี้เป็นตัวเลขเฉพาะพลเรือนหรือไม่ ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ไม่ได้มีเป้าหมายโจมตีทำลายเมืองของยูเครนแต่อย่างใดและพยายามใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้พลเรือนเสียชีวิต

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์แจ้งในหนังสือถึงรัฐสภาในวันนี้ว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จะส่งจรวดป้องกันภัยทางอากาศ “สติงเกอร์” จำนวน 200 ลูกให้แก่ยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตามคำขอของยูเครน ก่อนหน้านี้ เนเธอร์แลนด์ได้สัญญาจะส่งมอบอาวุธให้แก่ยูเครน ทั้งปืนยาว กระสุน ระบบเรดาร์และหุ่นยนต์ตรวจหาทุนระเบิด ส่วนทางด้านสาธารณรัฐเชก ก็ให้การอนุมัติในวันนี้ ในการส่งอาวุธและกระสุนมูลค่า 8.57 ล้านดอลลาร์ไปให้แก่ยูเครนเพื่อใช้ในการป้องกันตนเอง กระทรวงกลาโหมยูเครนกล่าวว่า อาวุธ ซึ่งรวมถึงปืนกล ปืนยาวและอาวุธเบาอื่น ๆ จะส่งไปยังสถานที่ที่ยูเครนเป็นฝ่ายแจ้งมา ส่วนฝรั่งเศส โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า จะจัดส่งยุทโธปกรณ์เพื่อการป้องกันประเทศให้กับยูเครน ส่วนการส่งอาวุธที่ใช้ในเชิงรุก ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาตัดสินใจ


สำนักข่าวอาร์ไอเอ ของรัสเซียรายงานอ้างคำกล่าวของนายดิมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซียที่กล่าวในวันนี้ว่า รัสเซียจะตอบโต้การยึดเงินของพลเมืองและบริษัทของรัสเซียที่อยู่ในต่างประเทศด้วยการยึดเงินทุนของชาวต่างชาติและบริษัทต่างชาติที่อยู่ในรัสเซีย นายเมดเวเดฟ กล่าวว่า รัฐบาลมอสโก มิได้ปิดแนวทางที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทที่จดทะเบียนในสหรัฐ สหภาพยุโรปและประเทศที่ไม่เป็นมิตรให้เป็นทรัพย์สินของชาติ ทางด้านนายดิมิทรี โรโกซิน ผู้บริหารรอสคอสมอส สำนักงานอวกาศของรัสเซีย ประกาศระงับความร่วมมือกับประเทศในทวีปยุโรปในการจัดส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศจากฐานปล่อยจรวดคูรูในเฟรนช์ เกียนา ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสและกำลังจะถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากเฟรนช์ เกียนา

ทางด้าน “รอสคอมนาดซอ” (Roskomnadzor) หน่วยงานกำกับดูแลการสื่อสารของรัสเซียกล่าวหาสื่อท้องถิ่น 10 สำนักว่าเสนอรายงานข่าวข้อมูลปลอมเกี่ยวกับปฎิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน สื่อที่ได้รับหนังสือเตือนมีทั้งสถานีวิทยุที่ได้รับความนิยมอย่าง เอคโค่ ออฟ มอสโก และหนังสือพิมพ์ โนโวยา กาเซตา ที่วิพากษ์รัฐบาลรัสเซีย ซึ่งนายดิมิทรี มูราตอฟ บรรณาธิการได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข