วอชิงตัน 12 ก.พ. – สหรัฐและบรรดาประเทศพันธมิตร เรียกร้องให้พลเมืองของตนเดินทางออกจากยูเครนในทันที เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อรัสเซียบุกยูเครน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการโจมตีทางอากาศ ในยูเครนที่ทางรัฐบาลวอชิงตันกล่าวในวันศุกร์ว่า อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาในขณะนี้
สหรัฐและประเทศในทวีปยุโรป เพิ่มระดับการเตือนว่ารัฐบาลรัสเซียใกล้จะเริ่มการโจมตีเต็มทีแล้ว ในขณะที่รัสเซียไม่รับการดำเนินการร่วมทางการทูตของสหภาพยุโรป หรือ อียูและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ในการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของรัสเซียในการลดความตึงเครียด โดยรัสเซียระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคารพกัน ในขณะที่ทางรัสเซียกล่าวหาชาติตะวันตกว่า พยายามเผยแพร่เรื่องโกหกเพื่อเบนความสนใจไปจากการกระทำที่เป็นการรุกรานของตนเอง รัสเซียระดมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นาย ทีบริเวณใกล้ชายแดนติดกับยูเครน แต่ปฎิเสธว่า ไม่ได้มีแผนการจะรุกรานยูเครนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่สหรัฐหลายคนพยายามใช้แนวทางทางการทูตแก้ไขวิกฤติการณ์ในเรื่องนี้ แต่ก็กล่าวว่า รัสเซียอาจบุกยูเครนก่อนที่การแช่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ และอาจจะเข้ายึดกรุงเคียฟ ของยูเครนและเมืองอื่น ๆ ด้วย
เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า ชาวอเมริกันไม่ควรคาดหวังว่าจะมีการใช้กองทัพช่วยในการอพยพ หากยังคงอยู่ในยูเครนต่อไปและพวกเขาควรออกจากยูเครนใน 48 ชั่วโมง ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็น 2 ประเทศล่าสุดดที่ขอให้ประชาชนออกจากยูเครนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากที่อังกฤษ ญี่ปุ่น ลัตเวีย นอร์เวย์ และเนเธอร์แลนด์ แจ้งประชาชนให้เดินทางออกจากยูเครนแล้ว ในขณะที่อิสราเอง กล่าวว่า กำลังอพยพญาติของพนักงานสถานทูตออกจากยูเครน รัสเซียต้องการคำรับประกันจากชาติตะวันตก รวมถึงการให้สัญญาว่าจะไม่นำขีปนาวุธมาประจำการใกล้ชายแดน ไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโตและปรับลดโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของประเทศพันธมิตร แต่ชาติตะวันตกระบุว่า ความต้องการของรัสเซียเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้.-สำนักข่าวไทย