เจนีวา 2 ก.พ. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า พบการระบาดของเชื้อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ใน 57 ประเทศทั่วโลก โดยมีผลวิจัยบางส่วนชี้ว่า สายพันธุ์ย่อยดังกล่าวอาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้นกว่าเชื้อโอไมครอนดั้งเดิม
องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานอัปเดตสถานการณ์ด้านระบาดวิทยารายสัปดาห์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า พบการระบาดของเชื้อโอไมครอนเป็นสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 93 จากกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดในเดือนมกราคม และพบสายพันธุ์ย่อยของเชื้อโควิดโอไมครอน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ย่อย BA.1, BA.1.1, BA.2 และ BA.3 ทั้งยังระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.1.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบครั้งแรก ยังคงครองสัดส่วนการระบาดสูงกว่าร้อยละ 96 จากกลุ่มตัวอย่างผู้ป่วยติดเชื้อโอไมครอนทั้งหมดในระบบฐานข้อมูลกลางโควิดโลก (GISAID)
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า พบตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย BA.2 เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ที่แตกต่างไปจากเชื้อโอไมครอนดั้งเดิม เช่น หนามโปรตีนที่อยู่บนพื้นผิวของเชื้อไวรัสที่เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ โดยพบการระบาดของเชื้อ BA.2 ใน 57 ประเทศแล้ว นอกจากนี้ ในบางประเทศยังพบการระบาดของเชื้อดังกล่าวเกินกว่าครึ่งหนึ่งของสายพันธุ์ย่อยโอไมครอนทั้งหมดรวมกัน
องค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ยังมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับความแตกต่างของเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย และเรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับลักษณะต่าง ๆ ของเชื้อเหล่านี้ เช่น การแพร่กระจาย การหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และความรุนแรง อย่างไรก็ดี มีผลวิจัยบางส่วนเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 สามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้นกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนดั้งเดิม.-สำนักข่าวไทย