กัวลาลัมเปอร์ 30 ม.ค.- มาเลเซียจะเรียกพบทุกบริษัทที่ถูกสหรัฐห้ามนำเข้าสินค้าด้วยข้อกล่าวหาบังคับใช้แรงงาน เพื่อหารือมาตรการเร่งด่วนในการแก้ปัญหา
นายเอ็ม ซาราวานัน รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของมาเลเซียแถลงวันนี้ว่า จะเรียกพบทุกบริษัทที่ถูกสำนักงานศุลกากรและปกป้องพรมแดนหรือซีบีพี (CBP) ของสหรัฐห้ามนำเข้าสินค้า รวมทั้งจะเรียกพบผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ 2 แห่งคือ ดับเบิลยูอาร์พีเอเชียแปซิฟิกและท้อปโกลฟที่เคยถูกสหรัฐห้ามนำเข้าสินค้าด้วย เนื่องจากวิธีการแก้ปัญหาของสองบริษัทนี้สามารถใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานและการปรับปรุงแก้ไขให้แก่บริษัทอื่นได้ ขณะเดียวกันเขาได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และกระทรวงแรงงานเร่งสอบสวนข้อกล่าวหาบังคับใช้แรงงานโดยทันที ขอเตือนว่าบริษัทใดที่ไม่ปรับปรุงการทำงานจะถูกดำเนินการสถานหนัก
รัฐมนตรีมาเลเซียเคยยอมรับว่า ข้อกล่าวหาเรื่องบริษัทมาเลเซียบังคับใช้แรงงานส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศ มาเลเซียได้ประกาศแผนปฏิบัติการแห่งชาติเรื่องการบังคับใช้แรงงานปีที่แล้ว หวังขจัดพฤติกรรมเอาเปรียบแรงงานให้หมดไปภายในปี 2573 เช่น การทำงานใช้หนี้ผูกพัน การให้อยู่ในที่พักไม่ถูกสุขอนามัย การให้ทำงานล่วงเวลามากเกินไป
ซีบีพีของสหรัฐประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า จะห้ามนำเข้าสินค้าของวายทีวายกรุ๊ป ผู้ผลิตถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งของมาเลเซีย ตามที่มีข้อมูลว่าบริษัทบังคับใช้แรงงาน นับเป็นบริษัทมาเลเซียแห่งที่ 7 ที่ถูกสหรัฐห้ามนำเข้าสินค้าในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ยังลงความเห็นว่า ไซม์ดาร์บี้ ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มของมาเลเซียบังคับใช้แรงงาน จึงจะยึดสินค้าของบริษัทนี้.-สำนักข่าวไทย