ลอนดอน 27 ม.ค.- สำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งชาติของสหราชอาณาจักรหรือเอ็นเอชเอส (NHS) แจ้งเจ้าหน้าที่ในอังกฤษเกือบ 80,000 คนที่ไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า ผู้ที่ต้องดูแลคนไข้แต่ยังไม่ฉีดวัคซีนเลยภายในสัปดาห์หน้าจะถูกย้ายหรือถึงขั้นไล่ออก
ระเบียบปัจจุบันของรัฐบาลอังกฤษกำหนดให้เจ้าหน้าที่เอ็นเอชเอสในอังกฤษที่ทำงานด่านหน้าทุกคนต้องฉีดวัคซีนเข็มแรกภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ และฉีดให้ครบ 2 เข็มภายในวันที่ 1 เมษายน กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมยืนยันว่า จะไม่เลื่อนเส้นตายดังกล่าว เพราะการปกป้องคนไข้คือสิ่งที่ถูกต้อง ขณะที่ผู้อำนวยการการแพทย์ของเอ็นเอชเอสในอังกฤษย้ำว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จะต้องสร้างความมั่นใจว่าตนเองได้รับการปกป้องแล้ว ข้อมูลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมปีก่อนระบุว่า เจ้าหน้าที่เอ็นเอสเอชในอังกฤษฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 94.3 และฉีด 2 เข็มแล้วร้อยละ 91.5 มาตรการบังคับฉีดวัคซีนของทางการอาจทำให้เจ้าหน้าที่ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนประมาณ 73,000 คน ตกงานได้
สำนักงานความมั่นคงสาธารณสุขสหราชอาณาจักรระบุว่า วัคซีนช่วยลดความเสี่ยงป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโควิดลงได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อหรือแพร่ด้วย แต่นายแมตต์ เทย์เลอร์ นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ วัย 42 ปี ที่ดูแลผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงตามบ้านช่วงโควิดระบาดรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่เอ็นเอชเอสกำลังตกเป็นตัวประกันทางการเมือง ทุกคนรู้ว่า คนฉีดวัคซีน 3 เข็มแล้วก็ยังติดเชื้อได้ ขณะที่บางคนไม่เคยฉีดเลยและไม่ติดเชื้อ เขาเองไม่ได้ฉีดและเตรียมใจแล้วว่าจะต้องตกงาน ด้านสกอตแลนด์และเวลส์ยังไม่บังคับเจ้าหน้าที่เอ็นเอสเอชหรือเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราต้องฉีดวัคซีน ขณะที่ไอร์แลนด์เหนือจะเปิดการหารือสาธารณะในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย