ปักกิ่ง 21 ม.ค. – จีนได้เปิดเผยแผนซึ่งระบุเป้าหมายสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งในช่วงแผนห้าปีที่ 14 ฉบับที่ 14 (2021-2025) โดยสรุปรายละเอียดดังนี้
รถไฟความเร็วสูงจะขยายเป็นความยาวรวม 50,000 กิโลเมตรในปี 2025 เพิ่มขึ้นจาก 38,000 กิโลเมตรในปี 2020 และคาดว่าเส้นทาง 250 กิโลเมตรจะครอบคลุม 95% ของเมืองที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน ตามเอกสารที่ออกโดยคณะรัฐมนตรีจีน
ในปี 2025 ทางรถไฟทั่วทั้งประเทศจีนจะมีความยาวรวม 165,000 กิโลเมตร เพิ่มจาก 146,000 กิโลเมตร ในปี 2020 สำหรับรถไฟใต้ดินในเขตเมือง ตั้งเป้าไว้ที่ 10,000 กิโลเมตร เพิ่มจาก 6,600 กิโลเมตร ขณะที่ทางด่วนจะเพิ่มขึ้นจาก 161,000 เป็น 190,000 กิโลเมตร ส่วนการเดินทางทางอากาศ จีนได้ตั้งเป้าเพิ่มสนามบิลเรือนเป็นมากกว่า 270 แห่ง จาก 241 แห่ง
จีนยังตั้งเป้าให้ระบบขนส่งต่างๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยจะได้เห็นรถเมล์ 72% ของทั้งหมด ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ เพิ่มจากเดิมที่ 66.2% โดยความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลง 5%
เป้าหมายหลักคือการบรรลุการพัฒนาแบบบูรณาการในปี 2025 โดยมีการค้นพบที่เป็นรูปธรรมในการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของระบบขนส่งตามแผน
เมื่อมองไปถึงปี 2035 แผนดังกล่าวมีเป้าหมายแบบ “1-2-3 Circles” ที่จะลดเวลาในการเดินทางภายในเมืองและกลุ่มเมือง และระหว่างมหานครต่างๆ จะถูกลดเหลือ 1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง และ 3 ชั่วโมงตามลำดับ โดยการส่งพัสดุด่วนอาจจัดส่งภายในระยะเวลาอันสั้นภายในจีน ราว 1 วัน หรือ 2 วัน เมื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และ 3 วันเมื่อส่งไปยังเมืองใหญ่ทั่วโลก
ในปี 2025 ความปลอดภัยในการขนส่งธัญพืช พลังงาน และแร่ในช่องทางหลัก ๆ จะได้รับการรับประกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และห่วงโซ่อุปทานด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศจะได้รับการคุ้มครองที่ดีขึ้นตามแผน
แผนดังกล่าวจะปรับปรุงความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ โดยระบุความพยายามในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน ผลักดันการพัฒนาเส้นทางรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรปคุณภาพสูง และสร้าง “เส้นทางสายไหมทางอากาศ” เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย/CMG
