นิวยอร์ก 19 ม.ค.- นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐยอมรับว่า รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเมื่อต้องใช้รถไฟใต้ดินในมหานครแห่งนี้ หลังเกิดเหตุสตรีเอเชียถูกชายจรจัดผลักตกรางให้รถไฟที่กำลังแล่นมาทับเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น
นายเอริก อดัมส์ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กพรรคเดโมแครตวัย 61 ปี เล่าให้สื่อฟังว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาหลังจากเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง เขาต้องโทรแจ้งความในขณะที่ขึ้นรถไฟใต้ดิน เพราะเห็นการทะเลาะวิวาทใกล้สถานีรถไฟ ถูกผู้โดยสารคนหนึ่งตะโกนใส่หน้า และเห็นผู้โดยสารคนหนึ่งนั่งหลับบนรถไฟ วันนั้นเขารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและความไร้ระเบียบ ดังนั้นในระหว่างที่กำลังหาทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ทางการต้องหาทางแก้ไขความจริงเรื่องประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยด้วย อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า ในภาพรวมแล้วบริการรถไฟใต้ดินนครนิวยอร์กยังมีความปลอดภัย นายอดัมส์ประกาศนโยบายก่อนเกิดเหตุสตรีถูกผลักตกรางเมื่อวันเสาร์ว่า จะเพิ่มตำรวจตรวจตราในสถานีรถไฟและดูแลคนจรจัดที่โดยสารรถไฟ
ด้านนายแจนโน ลีเบอร์ รักษาการประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานคมนาคมนครหลวงที่ให้บริการรถไฟใต้ดินนครนิวยอร์กมองว่า คำกล่าวของนายกเทศมนตรีเป็นการแสดงออกว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของชาวนิวยอร์กที่รู้สึกแย่จากประสบการณ์ส่วนตัวและสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา แม้ว่าโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมในรถไฟใต้ดินมีน้อยก็ตาม รถไฟใต้ดินนิวยอร์กมีทั้งหมด 472 สถานี ระยะทางทั้งหมด 1,070 กิโลเมตร ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2 ล้าน 1 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 44 ของช่วงเดียวกันก่อนเกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด
ตำรวจนิวยอร์กตั้งข้อหาชายจรจัดวัย 61 ปีว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน และกำลังสอบสวนว่าเป็นการก่ออาชญากรรมด้วยความเกลียดชังหรือไม่ เพราะเหยื่อเป็นสตรีเอเชีย และว่าผู้ต้องหามีประวัติเรื่องอารมณ์ไม่ปกติ.-สำนักข่าวไทย