เจนีวา 19 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่าเด็กและวัยรุ่นที่มีสุขภาพแข็งแรงจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ดร. สุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวันอังคารว่า แม้ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงหลังฉีด ในขณะที่เกิดการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั่วโลกต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลกลุ่มใดจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียวที่ระบุว่า เด็กหรือวัยรุ่นที่มีสุขภาพแข็งแรงต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
ดร. สวามินาธาน ยังระบุว่า คณะผู้เชี่ยวชาญระดับสูงขององค์การอนามัยโลกจะประชุมร่วมกันภายในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาคำถามที่เฉพาะเจาะจงในประเด็นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชากรในแต่ละประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องประชากรกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงต่ออาการป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประชากรสูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วย
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว ขณะที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ ประกาศอนุมัติใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มเด็กอายุ 12-15 ปีเมื่อช่วงต้นเดือน ส่วนเยอรมนีได้ประกาศคำแนะนำให้เด็กอายุ 12-17 ปีเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเมื่อสัปดาห์ก่อน.-สำนักข่าวไทย