นิวยอร์ก 6 ม.ค.- เชนนาลิซิส (Chainalysis) บริษัทวิจัยเรื่องบล็อกเชนเผยว่า ปี 2564 เกิดอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเข้ารหัสหรือคริปโตเคอเรนซีคิดเป็นมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 469,350 ล้านบาท)
เชนนาลิซิสในสหรัฐออกรายงานวันนี้ว่า เว็บไซต์กระเป๋าเงินดิจิทัลที่โยงกับการทำผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวง ตลาดซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย (darknet market) และการเรียกค่าไถ่ ได้รับคริปโตฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 80 คิดเป็นมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 469,350 ล้านบาท) แต่ถือว่ามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.15 ของมูลค่าการทำธุรกรรมคริปโตฯ ในปี 2564 ทั้งหมดที่มีมูลค่าสูงถึง 15.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 529.7 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 5 เท่า
เชนนาลิซิสระบุว่า อาชญากรรมเกี่ยวกับคริปโตฯ เพิ่มขึ้นมากเพราะมีการหลอกลวงและการโจรกรรมบนแพลตฟอร์มบริการการเงินไม่ผ่านตัวกลางหรือดีฟาย (DeFi) ที่เต็มไปด้วยปัญหา เช่น มีข้อบกพร่องเรื่องโค้ดที่ใช้งาน หรือมีระเบียบที่คลุมเครือ ปี 2564 มีการโจรกรรมคริปโตฯ จากดีฟาย 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 73,755 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 72 ของการโจรกรรมคริปโตฯ ทั้งหมด 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 107,280 ล้านบาท) และมีการหลอกลวง เช่น หอบเงินของนักลงทุนหนีไป 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 261,495 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 82 จากปี 2563
สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ เอ็นเอฟที (NFT) ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อปีก่อน เนื่องจากนักลงทุนสถาบันและบริษัทใหญ่ ๆ หันมาให้การยอมรับ ขณะที่นักลงทุนหน้าใหม่ถูกจูงใจด้วยความคาดหวังว่าจะได้กำไรมหาศาล หน่วยงานเฝ้าระวังทางการเงินและผู้กำหนดนโยบายในหลายประเทศเกรงว่า คริปโตฯ จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน และได้เรียกร้องขออำนาจมากขึ้นในการกำกับดูแลการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล.-สำนักข่าวไทย
