อัสตานา 6 ม.ค. – ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถาน ระบุว่า เขาได้ขอให้องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน หรือซีเอสทีโอ ซึ่งมีรัสเซียเป็นแกนนำ ช่วยเหลือคาซัคสถานหลังรัฐบาลไม่สามารถควบคุมเหตุประท้วงรุนแรงติดต่อกันหลายวันจนทำให้ที่ทำการรัฐหลายแห่งถูกวางเพลิงและมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 8 นาย
ประธานาธิบดีโตคาเยฟแถลงผ่านโทรทัศน์เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาขอให้บรรดาผู้นำของกลุ่มซีเอสทีโอยื่นมือช่วยเหลือคาซัคสถานเพื่อกำจัดภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในครั้งนี้ อันที่จริงแล้ว เขามองว่าเหตุดังกล่าวไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป แต่เป็นการบ่อนทำลายประเทศ กลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีจากต่างชาติ กำลังสร้างความโกลาหลไปทั่วประเทศ คนกลุ่มนี้ได้เข้ายึดอาคารและระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายแห่ง รวมถึงยึดสถานที่ที่จัดเก็บอาวุธขนาดเล็กและเครื่องบิน 5 ลำที่ท่าอากาศยานขนาดใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานในเมืองอัลมาตี ประธานาธิบดีโตคาเยฟยังระบุว่า ขณะนี้ ยังคงมีการสู้รบที่ยืดเยื้อระหว่างกลุ่มดังกล่าวกับกองทัพอากาศของกระทรวงกลาโหมคาซัคสถานในพื้นที่ใกล้เมืองอัลมาตี อย่างไรก็ดี รองนายกเทศมนตรีเมืองอัลมาตีระบุในเวลาต่อมาว่า ท่าอากาศยานของเมืองอัลมาตีปลอดผู้ประท้วงแล้ว และกลับมาเปิดบริการได้ตามปกติ ทั้งนี้ กลุ่มซีเอสทีโอเป็นกลุ่มพันธมิตรทางทหารระหว่างรัฐบาลของประเทศสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย อาร์เมเนีย เบลารุส คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และคาซัคสถาน
ในขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยของคาซัคสถานเผยว่า มีตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชีวิตแล้ว 8 นายจากเหตุประท้วงรุนแรงทั่วประเทศ และมีเจ้าหน้าที่อีกกว่า 300 นายได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้รายงานตัวเลขพลเรือนที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นของคาซัคสถานรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงในเมืองอัลมาตีได้บุกเข้าไปวางเพลิงที่สำนักประธานาธิบดีและที่ทำการนายกเทศมนตรีเมืองอัลมาตีเมื่อวันพุธ ทั้งนี้ คาซัคสถานเผชิญกับเหตุประท้วงครั้งใหญ่ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวันตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันแพง.-สำนักข่าวไทย