ซิดนีย์ 22 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียยืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ช่วงคริสต์มาส เนื่องจากโรงพยาบาลยังสามารถรับมือได้ดี แม้มีผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มากเป็นประวัติการณ์เพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันแถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉินกับมุขมนตรีรัฐต่าง ๆ ในวันนี้ว่า แม้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเดินหน้าทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการเข้าโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตยังคงต่ำเมื่อเทียบกับช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาด ชาวออสเตรเลียได้พยายามอย่างหนักที่จะได้มีเวลาร่วมกันในช่วงคริสต์มาส และรัฐบาลต้องการปกป้องความพยายามนี้ สิ่งหนึ่งที่ที่ประชุมเห็นพ้องกันในวันนี้คือ จะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันย้ำว่า การจำกัดการระบาดเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล รัฐบาลกลางจะไม่บังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในอาคาร แม้ว่าแนะนำให้ทำอย่างยิ่งก็ตาม ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ศูนย์ฉีดวัคซีนกำลังเร่งเดินหน้าอยู่ โดยที่คณะผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องร่นระยะห่างของการฉีดเข็ม 3 ขณะนี้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วร้อยละ 80
ออสเตรเลียพบผู้ติดโควิดรายใหม่เกิน 5,000 คนเป็นครั้งแรกในวันนี้ ลบสถิติเดิม 4,600 คนเมื่อวันก่อน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ร้อยละ 95 อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 1 และ 2 ของประเทศ ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสมทั้งประเทศราว 265,000 คน เสียชีวิตราว 2,160 คน.-สำนักข่าวไทย