มะนิลา 19 ธ.ค.- ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮล ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์แจ้งว่า มีคนในจังหวัดเสียชีวิตจากไต้ฝุนราอี (Rai) แล้ว 63 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศจากไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดของปีนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 112 คนแล้ว
นายอาร์เธอร์ ยับ ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮล ซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวยอดนิยม มีประชากรรวมกว่า 1 ล้าน 2 แสนคน โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีผู้สูญหายอยู่ 10 คน ได้รับบาดเจ็บ 13 คน เชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น เพราะมีนายกเทศมนตรีติดต่อกลับมายังส่วนกลางได้เพียง 33 คน จากทั้งหมด 48 คน เนื่องจากการสื่อสารขัดข้อง เขาได้สั่งการให้นายกเทศมนตรีทุกคนใช้อำนาจฉุกเฉินจัดหาอาหารให้แก่ประชาชน รวมทั้งน้ำดื่มที่จะเป็นปัญหาเร่งด่วนเพราะกระแสไฟฟ้าดับทำให้โรงประปาไม่สามารถทำงานได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดโบโฮลเผยด้วยว่า ได้ออกสำรวจความเสียหายทางอากาศพบความเสียหายในวงกว้างและร้ายแรงจากไต้ฝุ่นที่พัดกระหน่ำตลอดทั้งวันพฤหัสบดีและวันศุกร์
รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยว่า มีประชาชนเดือดร้อนประมาณ 780,000 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 300,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 39 คนในพื้นที่อื่น ส่วนจังหวัดดินากัตที่เป็นหมู่เกาะและถูกไต้ฝุ่นกระหน่ำเป็นแห่งแรกได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 10 คน ทำให้ยอดผู้ชีวิตรวมทั้งประเทศขณะนี้รวมเป็น 112 คนแล้ว ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตเดินทางทางเครื่องบินไปตรวจเยี่ยมพื้นที่เกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ โดยรับปากจะจัดสรรความช่วยเหลือครั้งใหม่ 2,000 ล้านเปโซ (ราว 1,336 ล้านบาท) และตรวจเยี่ยมจังหวัดโบโฮลในวันนี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า ไต้ฝุ่นทำให้ 227 เมืองไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะนี้แก้ไขได้เพียง 21 พื้นที่เท่านั้น และท่าอากาศยานท้องถิ่นที่เสียหาย 3 แห่ง ยังปิดทำการอยู่ 2 แห่ง
ไต้ฝุ่นราอีมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วลมกระโชกสูงสุด 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เป็นพายุกำลังแรงที่สุดลูกหนึ่งในรอบหลายปี หลายคนหวนนึกถึงซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่ถล่มฟิลิปปินส์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 คร่าชีวิตคนไปมากกว่า 6,300 คน.-สำนักข่าวไทย