วอชิงตัน 15 ธ.ค.- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) ระงับการเจรจาซื้อยุทโธปกรณ์มูลค่า 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 768,200 ล้านบาท) จากสหรัฐ เป็นข้อพิพาทที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐกับประเทศพันธมิตรสำคัญในอ่าวเปอร์เซียแห่งนี้
สถานทูตยูเออีในกรุงวอชิงตันแถลงว่า จะระงับการเจรจาซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 โดรนติดอาวุธ และยุทโธปกรณ์อื่น ๆ กับสหรัฐ ส่วนการเจรจาประเด็นอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้จะเป็นไปตามกำหนดเดิม สหรัฐยังคงเป็นผู้จัดหาอาวุธชั้นนำที่เป็นที่ต้องการของยูเออี และอาจจะมีการฟื้นการเจรจาเรื่อง F-35 อีกครั้งในอนาคต
สหรัฐเสนอขายเครื่องบิน F-35 จำนวน 50 ลำ ระบบโดรนก้าวหน้า 18 ชุด เครื่องกระสุนจากอากาศสู่อากาศและจากอากาศสู่พื้นให้แก่ยูเออี ก่อนที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์จะหมดวาระ เป็นผลจากการที่ยูเออีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในปี 2563 ต่อมารัฐบาลโจ ไบเดนจะได้ระงับข้อตกลงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเสียงวิจารณ์เรื่องยูเออีและซาอุดีอาระเบียเข้าไปพัวพันในสงครามเยเมนที่กลายเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้
เจ้าหน้าที่ยูเออีระบุว่า การที่สหรัฐยืนกรานจำกัดเรื่องวิธีและสถานที่ใช้เครื่องบิน F-35 เป็นการละเมิดอธิปไตยของยูเออี ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐชี้แจงว่า สหรัฐบังคับใช้ข้อกำหนดในการใช้ยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในสหรัฐกับทุกประเทศ ไม่ได้เจาะจงแต่ยูเออี และเป็นเรื่องที่ไม่สามารถต่อรองได้ ความเป็นหุ้นส่วนของสหรัฐกับยูเออีเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์และมีความซับซ้อนมากกว่าการขายอาวุธเท่านั้น อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่า สหรัฐเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงชั้นเชิงในการเจรจาของยูเออีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย