เมนโลปาร์ก 8 ธ.ค.- เมตา แพลตฟอร์ม อิงก์ (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กจะไม่ให้ธุรกิจทั้งหมดของกองทัพเมียนมามีพื้นที่ในแพลตฟอร์มของบริษัท
นายราฟาเอล แฟรงเคิล ผู้อำนวยการนโยบายสาธารณะสำหรับประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเมตาแถลงว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปตามที่ประชาคมโลกและภาคประชาสังคมมีเอกสารประกอบอย่างครอบคลุมว่า ธุรกิจเหล่านี้มีบทบาทโดยตรงในการให้เงินทุนแก่กองทัพเมียนมา เมตาระบุชื่อธุรกิจเหล่านี้จากรายงานปี 2562 ของคณะค้นหาข้อเท็จจริงในเมียนมา งานวิจัยของกลุ่มนักเคลื่อนไหว และการหารือกับภาคประชาสังคม และได้ลบบัญชี หน้าเพจ รวมทั้งกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่อยู่ในความควบคุมของกองทัพเมียนมาแล้วมากกว่า 100 แห่ง
ส่วนเรื่องที่เฟซบุ๊กถูกผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญายื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 ล้านล้านบาท) โทษฐานไม่ดำเนินการใด ๆ กับการปลุกกระแสเกลียดชังชาวโรฮิงญาที่เป็นชนกลุ่มน้อยในเมียนมา และนำมาซึ่งการใช้ความรุนแรงกับชาวโรฮิงญานั้น นายแฟรงเคิลไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ แต่กล่าวว่า เมตารังเกียจการก่ออาชญากรรมต่อชาวโรฮิงญาในเมียนมา โดยได้ตั้งทีมงานที่พูดภาษาเมียนมา แบนกองทัพเมียนมา ขัดขวางเครือข่ายที่ชักใยการแสดงความเห็นสาธารณะ และดำเนินการกับการให้ข้อมูลอันตรายเพื่อปกป้องผู้คนให้ปลอดภัย
บริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ของสหรัฐรายนี้เคยประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า จะไม่ให้ทุกกลุ่มที่เกี่ยวโยงกับกองทัพเมียนมาลงโฆษณาในแพลตฟอร์มของบริษัท เฟซบุ๊กซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มของเมตาเป็นสื่อสังคมออนไลน์หลักในเมียนมา โดยเป็นช่องทางสื่อสารสำคัญทั้งของผู้ประท้วงต่อต้านกองทัพ และของกองทัพ แต่หลังจากถูกประชาคมโลกวิจารณ์เรื่องไม่ควบคุมการปลุกกระแสเกลียดชังทางออนไลน์ เฟซบุ๊กจึงได้เริ่มต่อต้านกองทัพเมียนมาและปกป้องผู้ใช้งานชาวเมียนมามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย