ปักกิ่ง 8 ธ.ค. – รายงานล่าสุดขององค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (RSF) ระบุว่า จีนเป็นประเทศที่จับกุมนักข่าวเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก โดยมีนักข่าวที่ยังคงถูกควบคุมตัวในขณะนี้อย่างน้อย 127 คน
องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่สนับสนุนและปกป้องเสรีภาพสื่อ ระบุว่า จีนกำลังเดินหน้าปราบปรามต่อต้านสื่อมวลชนทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยอ้างเหตุผลในการจับกุมผู้สื่อข่าวหรือนักข่าวพลเมืองด้วยข้อกล่าวหาสร้างความวุ่นวาย ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า การควบคุมสื่อมวลชนของจีนเริ่มรุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 และมีผู้สื่อข่าวและนักวิจารณ์ในสื่อออนไลน์อย่างน้อย 10 คนที่ถูกควบคุมตัว เนื่องจากรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่นของจีน
องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนยังระบุว่า เจิ้ง จาน นักข่าวพลเมืองและอดีตทนายความ วัย 38 ปี เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกทางการจีนควบคุมตัว หลังจากที่เธอเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนเพื่อถ่ายทำสารคดีและเขียนบทความเกี่ยวกับสภาพท้องถนนและโรงพยาบาลในเมืองดังกล่าว แม้ถูกเจ้าหน้าที่ของจีนข่มขู่ก็ตาม และทำให้รายงานข่าวของเธอได้รับการเผยแพร่เป็นวงกว้างในสื่อโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ดี เธอกลับถูกทางการจีนตัดสินว่ามีความผิดฐานก่อเหตุทะเลาะวิวาทและสร้างความวุ่นวาย ซึ่งเป็นข้อหาที่จีนมักใช้กับนักเคลื่อนไหวและผู้เปิดโปงความลับที่เป็นภัยต่อความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมข้อมูลภายในประเทศ
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า จีนได้ใช้วิธีการอื่น ๆ เช่น การดำเนินการทางการทูตในต่างประเทศเพื่อโจมตีนักข่าว การขัดขวางสื่อมวลชน การปิดกั้นประเด็นข่าว การบังคับให้ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นศึกษาอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน การดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อไว้ในโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการไล่ออกหรือข่มขู่นักข่าว ทั้งนี้ องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนได้จัดให้จีนอยู่ในอันดับ 177 จาก 180 ประเทศในดัชนีเสรีภาพสื่อประจำปีนี้ โดยที่เกาหลีเหนืออยู่ในอันดับ 179.-สำนักข่าวไทย