เบอร์ลิน 3 ธ.ค. – เยอรมนีประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วประเทศเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่บรรดาผู้นำของเยอรมนีต่างสนับสนุนการเสนอให้บังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในเดือนมกราคมปีหน้า
นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ซึ่งใกล้จะอำลาตำแหน่งในเร็ว ๆ นี้ และนายโอลาฟ ชอลซ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แถลงร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการหารือในสถานการณ์วิกฤตกับบรรดาผู้นำรัฐต่าง ๆ ของเยอรมนีว่า ประชาชนที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดจะถูกสั่งห้ามเดินทางไปยังสถานที่ทุกแห่ง ยกเว้นมีกิจธุระจำเป็น เช่น ต้องไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือไปร้านขายยา เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ที่เพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19 ไม่นานมานี้จะได้รับการยกเว้นจากมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลและนายชอลซ์ยังสนับสนุนข้อเสนอให้บังคับฉีดวัคซีนโควิด หากรัฐสภาเยอรมนีมีมติเห็นชอบ รัฐบาลก็จะประกาศใช้ข้อบังคับดังกล่าวได้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าเป็นอย่างเร็วที่สุด
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เยอรมนีกำลังควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงขึ้นจนทำให้ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้งท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ขณะนี้ เยอรมนียังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ทำสถิติสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ทางการเยอรมนีระบุเมื่อวันพุธว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 446 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในรอบ 9 เดือน ทั้งนี้ เยอรมนีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 100,000 คน.-สำนักข่าวไทย