fbpx

นักต่อต้านวัคซีนโควิดชาวอเมริกันเสียชีวิตเพราะโรคโควิด

วอชิงตัน 2 ธ.ค. – นายมาร์คัส แลมบ์ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายสถานีโทรทัศน์คริสเตียนและเป็นชาวอเมริกันผู้ที่ต่อต้านวัคซีนป้องกันโรคโควิดคนสำคัญ เสียชีวิตหลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19


นางโจนี แลมบ์ ภรรยาของนายมาร์คัส แลมบ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเครือข่ายสถานีโทรทัศน์คริสเตียนชื่อ เดย์สตาร์ เทเลวิชั่น เน็ตเวิร์ก ในปี 2540 ประกาศข่าวการเสียชีวิตของนายแลมบ์ในรายการของสถานีโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น นางแลมบ์ระบุว่า นายแลมบ์เป็นโรคเบาหวานและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหลังติดเชื้อโควิด หลังจากนั้น สามีของเธอก็พยายามใช้วิธีการรักษาโรคโควิดและปอดบวมที่หลากหลาย รวมถึงวิธีที่เคยกล่าวถึงในเดย์สตาร์ ซึ่งเธออ้างว่าตัวเองเคยใช้วิธีเหล่านี้จนหายป่วยจากโรคโควิด

นางแลมบ์ยังระบุว่า วิธีดังกล่าวทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของนายแลมบ์พุ่งสูงและระดับออกซิเจนในร่างกายลดลงจนเขาต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา สามีของเธอเชื่อมั่นเต็มร้อยเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคโควิดที่เคยพูดถึงในเดย์สตาร์ ซึ่งช่วยให้ผู้คนทั่วโลกรู้วิธีรักษาโรคโควิดตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างไรก็ดี หัวใจของนายแลมบ์กลับหยุดเต้นในเวลาต่อมา


ก่อนหน้านี้ นายแลมบ์มักพูดจาต่อต้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในรายการอยู่เสมอ ครั้งหนึ่ง เขาเคยเชิญนายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ นักต่อต้านวัคซีนโควิดชื่อดัง ซึ่งเป็นหลานชายของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี และนายเดล บิ๊กทรี นักต่อต้านวัคซีนโควิดและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ มาร่วมรายการในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยที่นายแลมบ์กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดไม่ใช่วัคซีนจริง แต่เป็นวัคซีนทดลองที่เป็นอันตราย ทั้งยังอ้างว่าจะมีผู้คนล้มตายหรือเป็นโรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางระบบประสาทจำนวนมากหลังฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี ระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขณะที่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนนั้นอาจเกิดขึ้นได้ แต่จัดอยู่ในชนิดหายาก ส่วนผู้ที่ไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนจะมีโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคโควิดสูงถึง 11 เท่า และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน