อิสราเอลห้ามต่างชาติทุกคนเข้าประเทศนาน 14 วัน

เทลอาวีฟ 28 พ.ย.- อิสราเอลจะห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศเป็นเวลา 14 วัน นับเป็นประเทศแรกของโลกที่ปิดพรมแดนโดยสิ้นเชิง เพื่อสกัดไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน และจะนำเทคโนโลยีต่อต้านก่อการร้ายมาช่วยสกัดการแพร่เชื้อไวรัสนี้ด้วย


นายกรัฐมนตรีนัฟทาลี เบนเนตต์ ของอิสราเอลแถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า คำสั่งนี้ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากรัฐบาลจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 14 วัน ห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าอิสราเอล ส่วนชาวอิสราเอลไม่ว่าฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ จะต้องกักโรคเมื่อเข้าประเทศ เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์เข้าสู่วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนหน้านี้อิสราเอลได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ห้ามชาวต่างชาติที่มาจากประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกาเข้าประเทศ

ขณะเดียวกันทางการอิสราเอลจะนำเทคโนโลยีติดตามโทรศัพท์เคลื่อนที่ของชินเบต ซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงภายในมาใช้ติดตามตำแหน่งผู้เป็นพาหะเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนด้วย เพื่อสกัดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เทคโนโลยีนี้ใช้สำหรับต่อต้านการก่อการร้าย อิสราเอลนำมาใช้เป็นครั้งคราวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ติดตามตำแหน่งผู้ติดเชื้อกับโทรศัพท์เครื่องอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อติดตามหาผู้ที่อาจมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด ศาลฎีกาอิสราเอลเพิ่งสั่งจำกัดการใช้งานในปีนี้ เพราะกลุ่มสิทธิร้องเรียนว่า ละเมิดความเป็นส่วนตัว


เจ้าหน้าที่อิสราเอลหวังว่า ในช่วง 14 วันที่ห้ามชาวต่างเข้าประเทศ อิสราเอลจะมีข้อมูลมากขึ้นว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมรอนได้เพียงใด โดยได้ตั้งสมมติฐานไว้ว่า เกือบทุกประเทศทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์นี้แล้ว เป็นไวรัสที่พบในแอฟริกาใต้เป็นแห่งแรกและองค์การอนามัยโลกระบุให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล อิสราเอลพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 1 คน และเข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อ 7 คน ในจำนวนนี้ 3 คนฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และ 3 คนไม่ได้เดินทางมาจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ฝุ่นPM

เตือนเฝ้าระวังค่าฝุ่น PM2.5 สูงตลอดสัปดาห์นี้

กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนแนวโน้มค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค. ทั้งสาเหตุจากอากาศนิ่งและจมตัว อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่ รวมถึงหมอกควันข้ามแดน