เบอร์ลิน 19 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เยอรมนีจะจำกัดการใช้ชีวิตของประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดหรือผู้ที่ยังไม่หายป่วยจากโรคโควิด-19 ในพื้นที่ที่โรงพยาบาลเผชิญกับภาวะตึงตัวจากการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด
นายกรัฐมนตรีแมร์เคิลระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นต่อรับมือกับการระบาดระลอกสี่ที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง และทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งในเยอรมนีเผชิญกับภาวะตึงตัว รัฐบาลกลางคงไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการมากขนาดนี้ หากประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดมากขึ้น และตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปที่ทุกคนจะเข้ารับการฉีดวัคซีน ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลกลางจะพิจารณาคำขอจากรัฐบาลท้องถิ่นเกี่ยวกับการออกข้อกำหนดให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ทั้งนี้ ชาวเยอรมนีที่ฉีดวัคซีนโควิดครบโดสหรือหายป่วยจากโรคโควิดจะได้รับอนุญาตให้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ เช่น เข้าชมการแข่งขันกีฬาหรือนิทรรศการทางวัฒนธรรม และนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหารได้ แม้อยู่ในพื้นที่ที่โรงพยาบาลมีอัตรารองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนี รายงานว่า รัฐแซกโซนี ทางตะวันออกของเยอรมนี เป็นภูมิภาคที่เผชิญกับการระบาดระลอกสี่รุนแรงที่สุดในเยอรมนี และทำให้ทางการท้องถิ่นกำลังพิจารณาสั่งปิดโรงภาพยนตร์ สถานที่จัดคอนเสิร์ต และการแข่งขันฟุตบอล นอกจากนี้ รัฐแซกโซนียังเป็นรัฐที่มีอัตราฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดต่ำสุดของประเทศอีกด้วย ขณะนี้ เยอรมนีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 5.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 99,000 คน.-สำนักข่าวไทย