ลอนดอน 8 พ.ย. – ทั่วโลกมียอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 250 ล้านคนในวันนี้ ขณะที่บางประเทศในทวีปยุโรปตะวันออกพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้น แม้การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาได้บรรเทาลงและหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดการค้าและการท่องเที่ยวอีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์เผยผลวิเคราะห์ข้อมูลที่ระบุว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายวันโดยเฉลี่ยมีอัตราลดลงร้อยละ 36 ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อ 50 ล้านคนทุก ๆ 90 วัน เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา เทียบกับการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 50 ล้านคนแรกทั่วโลกที่ใช้เวลานานเกือบ 1 ปี ผลวิเคราะห์ดังกล่าวยังระบุว่า มี 55 ประเทศจาก 240 ประเทศทั่วโลก เช่น รัสเซีย ยูเครน และกรีซ ที่ยังคงพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจนใกล้แตะสถิติสูงสุดนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน โดยพบว่า ยุโรปตะวันออกอยู่ในกลุ่มที่มีอัตราฉีดวัคซีนโควิดต่ำสุดในภูมิภาค และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในทวีปยุโรปที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 1 ล้านคนในทุก 4 วัน
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายรายได้ให้ความเห็นในเชิงบวกว่า นับเป็นเรื่องดีที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถรับมือกับการระบาดครั้งใหญ่ได้ด้วยการฉีดวัคซีนโควิดและภูมิคุ้มกันโรคโควิดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนนักระบาดวิทยาชั้นแนวหน้าขององค์การอนามัยโลกกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เชื่อว่าตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2565 ทั่วโลกจะสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดได้ด้วยการลดอัตราป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ. -สำนักข่าวไทย