ปักกิ่ง 5 พ.ย. – สถานการณ์ระบาดระลอกล่าสุดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในจีนยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยแพร่ระบาดไปยัง 20 มณฑลทั่วประเทศ และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจากการระบาดในครั้งนี้เกือบ 800 คนแล้ว
คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 68 คน ทำให้จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 97,600 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน ขณะที่มณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ร้อยละ 33 จากยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมในระลอกล่าสุด ได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดในครั้งนี้ เนื่องจากพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ไม่ทราบที่มาในเมืองเฮ่ยเหอ แม้ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองดังกล่าวแล้วก็ตาม ส่วนหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ ของทางการจีน รายงานว่า การระบาดในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อโรงเรียน โดยระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดอย่างน้อย 20 คน ในเมืองเฮ่ยเหอ ที่มีความเชื่อมโยงกับโรงเรียนทั่วไปและโรงเรียนอนุบาล อีกทั้งยังพบผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับนักเรียนในมณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งมีพรมแดนติดกรุงปักกิ่ง และมณฑลกานซูอีกด้วย
เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การระบาดระลอกล่าสุดในจีนแพร่กระจายไปยัง 20 มณฑลทั่วประเทศ และถือเป็นการระบาดที่กินวงกว้างมากที่สุด นับตั้งแต่ที่จีนพบการระบาดครั้งแรกของเชื้อโควิดที่เมืองอู่ฮั่น ในปี 2562 ขณะนี้จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 800 คน ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันของชาติตะวันตกที่อยู่ในหลักหมื่น แต่จีนก็ยังคงใช้ยุทธศาสตร์ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อเป็นศูนย์ ด้วยการใช้มาตรการเข้มงวด เช่น การตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนจำนวนมาก แม้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพียง 1 คน การสั่งกักตัวประชาชนที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ และการจำกัดการเดินทางของประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย