โตเกียว, 1 พ.ย. – พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ของนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และสามารถครองเสียงข้างมากเอาไว้ได้ต่อไป แต่ได้ที่นั่งในสภาน้อยลงจากการเลือกตั้งคราวก่อน
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราฎรขั้นสุดท้าย ที่เพิ่งปิดหีบไปเมื่อเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง โดยพรรคแอลดีพี ของนายกรัฐมนตรีคิชิดะ ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาไดเอ็ต 261 ที่นั่ง และเมื่อรวมกับพรรคโคเมโตะ พรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาล ก็จะได้ที่นั่งในสภาไดเอ็ต 293 ที่นั่ง จากทั้งหมด 465 ที่นั่ง เกินกว่า 233 ที่นั่งซึ่งเป็นจำนวนที่นั่งอย่างน้อยที่จะได้ครองเสียงข้างมากในสภา ขณะที่ก่อนหน้าที่จะยุบสภา พรรคแอลดีพีและพรรคโคเมโตะ มีที่นั่งรวมกันในสภาถึง 305 ที่นั่ง ทำให้พรรคแอลดีพี ได้กลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งได้ และจะเป็นการครองเสียงข้างมากในสภาได้อย่างต่อเนื่อง หลังทำสถิติยาวนานที่ตั้งแต่ยุคของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปลายปี 2012 อย่างไรก็ดี หากนับเฉพาะที่นั่งของพรรคแอลดีพี ถือว่าทำผลงานได้ต่ำกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ที่พรรคได้ที่นั่งในสภามากถึง 276 ที่นั่ง
ส่วนพรรคฝ่ายค้านหลัก อย่างพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตยญี่ปุ่น หรือซีดีพี ได้ที่นั่งในสภา 96 ที่นั่ง ถือว่าทำผลงานได้แย่กว่าเดิม ที่เคยได้ครองที่นั่งในสภาล่าสุดช่วงก่อนการเลือกตั้ง 109 ที่นั่ง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะ ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ยืนยันว่า ต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลในระยะยาว และยังถือเป็นการลงประชามติของชาวญี่ปุ่น ที่มีต่อนโยบายของพรรคแอลดีพี ซึ่งบริหารประเทศมานานร่วม 10 ปีแล้ว โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ‘อาเบะโนมิกส์’ นโยบายต่างประเทศที่มีต่อสหรัฐและจีน และการบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนัก ในสมัยนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ.-สำนักข่าวไทย