เคียฟ 1 ก.พ. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในยูเครนโดยทันที หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างกองกำลังของรัฐบาลยูเครนและฝ่ายกบฏบริเวณภาคตะวันออกของประเทศอย่างต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน และประชาชนหลายพันคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ท่ามกลางอากาศหนาวจัด
บรรดาสมาชิกของยูเอ็นเอสซีแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความรุนแรง ที่เกิดขึ้นบริเวณภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนในพื้นที่ ยูเอ็นเอสซีจึงมีมติเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงโดยทันที เหตุการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏซึ่งรัสเซียให้การสนับสนุน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีพลเมืองและนักรบของทั้ง 2 ฝ่ายเสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน นับเป็นเหตุความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดนับแต่ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม
ด้านประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนยุติภารกิจเยือนกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีโดยทันที และเดินทางกลับมาประชุมฉุกเฉินร่วมกับสภาความมั่นคงและกลาโหมแห่งชาติ เพื่อหารือถึงสถานกาณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินกล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียรู้สึกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก แต่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ระบุว่า กองกำลังฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลยูเครนเป็นผู้เริ่มก่อเหตุโจมตี.-สำนักข่าวไทย